สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก ครูต้นไผ่ดอทคอม ทุกท่านครับ วันนี้พบกับ ครูต้นไผ่ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ เอกสารการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (การย้ายกรณีปกติ) ประจำปี พ.ศ.2567 ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติตามแนวทางเอกสารการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (การย้ายกรณีปกติ) ประจำปี พ.ศ.2567 ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ เอกสารการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (การย้ายกรณีปกติ) ประจำปี พ.ศ.2567 ตามรายละเอียดดังนี้ ครับ
ดาวน์โหลด เอกสารการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (การย้ายกรณีปกติ) ประจำปี พ.ศ.2567

เอกสารการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู
การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นกระบวนการที่สำคัญที่ต้องใช้เอกสารหลากหลายประเภทและต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด สำหรับครูที่มีความประสงค์จะย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาใหม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ
การเตรียมเอกสารการย้ายครูนั้นเริ่มต้นจากการยื่นคำร้องขอย้ายซึ่งเป็นเอกสารหลักที่แสดงความจำนงของข้าราชการครูที่ต้องการย้ายไปประจำที่หน่วยงานใหม่ คำร้องนี้ต้องระบุเหตุผลในการย้ายอย่างชัดเจนและต้องได้รับการรับรองจากผู้บังคับบัญชาตามลำดับ โดยเริ่มจากหัวหน้าสถานศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่จะไปประจำ
เอกสารประกอบการพิจารณาการย้ายมีหลายประเภทที่ข้าราชการครูต้องจัดเตรียมให้ครบถ้วน ได้แก่ ใบประจำตัวข้าราชการครู หนังสือสำคัญการศึกษาและใบรับรองผลการศึกษาฉบับถูกต้อง หนังสือรับรองการผ่านการประเมินวิทยฐานะครู ใบรับรองผลการปฏิบัติราชการในระยะ 3 ปีย้อนหลัง ใบรับรองการผ่านการพัฒนาตนเองตามมาตรฐานวิชาชีพครู และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติเฉพาะของตำแหน่งที่จะไปดำรงตำแหน่ง
หนังสือรับรองจากสถานศึกษาเดิมเป็นเอกสารสำคัญที่ต้องระบุข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการทำงาน ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการครู เอกสารนี้ต้องลงลายมือชื่อของผู้อำนวยการสถานศึกษาและประทับตราของสถานศึกษาให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังต้องมีหนังสือรับรองจากชุมชนหรือผู้ปกครองนักเรียนที่แสดงถึงการยอมรับและความพึงพอใจในการปฏิบัติหน้าที่ของครู
สำหรับครูที่มีคู่สมรสซึ่งเป็นข้าราชการด้วยกันจำเป็นต้องยื่นเอกสารประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม ได้แก่ สำเนาทะเบียนสมรส หนังสือรับรองการปฏิบัติราชการของคู่สมรส และหนังสือยินยอมจากคู่สมรสในกรณีที่การย้ายจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของคู่สมรส เอกสารเหล่านี้จะช่วยให้คณะกรรมการพิจารณาการย้ายสามารถประเมินสถานการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างครอบคลุม
การจัดเตรียมเอกสารทางการเงินเป็นอีกส่วนสำคัญของกระบวนการย้าย ครูต้องยื่นเอกสารแสดงสถานะทางการเงิน เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน ใบรับรองหนี้สิน หนังสือรับรองจากธนาคารเกี่ยวกับสถานะบัญชี และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาระผูกพันทางการเงิน เอกสารเหล่านี้จะใช้ประกอบการพิจารณาเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการย้ายและการจัดสวัสดิการอื่นๆ ให้กับข้าราชการครูที่ย้าย
แบบรายงานประวัติข้าราชการเป็นเอกสารที่ต้องกรอกข้อมูลอย่างละเอียดและครบถ้วน ประกอบด้วยข้อมูลส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ผลงานที่โดดเด่น รางวัลหรือเกียรติยศที่ได้รับ การพัฒนาตนเอง และข้อมูลอื่นๆ ที่แสดงถึงศักยภาพและความเหมาะสมของครูในการไปปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาใหม่ แบบรายงานนี้ต้องมีลายมือชื่อของครูผู้ยื่นคำร้องและผู้บังคับบัญชาตามลำดับ
หนังสือรับรองสุขภาพจากแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นเอกสารจำเป็นที่แสดงถึงความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจของครูในการปฏิบัติหน้าที่ หนังสือรับรองนี้ต้องออกให้ไม่เกิน 6 เดือนก่อนวันยื่นคำร้องและต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสภาพสุขภาพโดยทั่วไป การมีโรคประจำตัว การใช้ยา และข้อแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน
เอกสารประกอบการพิจารณาเหตุผลในการย้ายเป็นส่วนที่มีความสำคัญมาก ครูต้องยื่นหลักฐานที่สนับสนุนเหตุผลในการย้าย เช่น ใบรับรองแพทย์ในกรณีที่ต้องย้ายเพื่อการรักษาพยาบาล หนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษาในกรณีที่ต้องย้ายเพื่อการศึกษาต่อ เอกสารเกี่ยวกับการดูแลบิดามารดาในกรณีที่ต้องย้ายเพื่อการดูแลครอบครัว หรือเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ส่วนตัวที่จำเป็นต้องย้าย
การจัดทำแผนการพัฒนาตนเองสำหรับตำแหน่งใหม่เป็นเอกสารที่แสดงถึงความพร้อมและวิสัยทัศน์ของครูในการปรับตัวและพัฒนาความสามารถให้เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาใหม่ แผนนี้ควรประกอบด้วยการวิเคราะห์ความต้องการของสถานศึกษาปลายทาง การประเมินจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนาของตนเอง แผนการพัฒนาความรู้และทักษะ และกิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด
หนังสือรับรองจากองค์กรวิชาชีพครูเป็นเอกสารที่แสดงถึงการยอมรับจากกลุ่มวิชาชีพและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมพัฒนาวิชาชีพ เอกสารนี้ควรระบุถึงการเป็นสมาชิกขององค์กรวิชาชีพ การเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาวิชาชีพ การได้รับการยอมรับจากเพื่อนครู และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาในระดับต่างๆ
ใบรับรองผลการดำเนินงานโครงการพิเศษหรือนวัตกรรมทางการศึกษาเป็นเอกสารที่แสดงถึงความสามารถในการคิดสร้างสรรค์และนำการเปลี่ยนแปลงมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เอกสารนี้ควรระบุรายละเอียดของโครงการที่ได้ดำเนินการ วัตถุประสงค์ของโครงการ กิจกรรมที่ดำเนินการ ผลลัพธ์ที่ได้รับ และผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษา
การจัดเตรียมเอกสารเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับชุมชนและผู้ปกครองเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้เอกสารอื่นๆ ครูต้องยื่นหนังสือรับรองจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน หนังสือรับรองจากชุมชน หนังสือรับรองจากผู้ปกครองนักเรียน และเอกสารอื่นๆ ที่แสดงถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชนและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
สำหรับครูที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านต้องยื่นเอกสารประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม เช่น ใบประกาศนียบัตรหรือใบรับรองความสามารถพิเศษ ผลงานวิจัยหรือบทความทางวิชาการ การได้รับรางวัลหรือการยอมรับในระดับต่างๆ และเอกสารอื่นๆ ที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่สอนหรือความสามารถพิเศษที่จะเป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาปลายทาง
แบบประเมินความพึงพอใจจากนักเรียน ผู้ปกครอง และเพื่อนร่วมงานเป็นเอกสารที่แสดงถึงการยอมรับและความเชื่อมั่นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง แบบประเมินนี้ควรจัดทำอย่างเป็นระบบและมีความน่าเชื่อถือ โดยครอบคลุมด้านการจัดการเรียนการสอน การบริหารจัดการชั้นเรียน ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และการปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู
เอกสารเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่คณะกรรมการให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ครูต้องยื่นหลักฐานการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาตนเองในช่วง 5 ปีย้อนหลัง เช่น การอบรม การสัมมนา การประชุมวิชาการ การศึกษาดูงาน การเป็นวิทยากร และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาวิชาชีพครู เอกสารเหล่านี้ต้องมีการรับรองจากหน่วยงานที่จัดกิจกรรมและระบุจำนวนชั่วโมงการพัฒนาอย่างชัดเจน
การจัดทำแผนงานสำหรับปีแรกในสถานศึกษาใหม่เป็นเอกสารที่แสดงถึงความพร้อมและวิสัยทัศน์ของครูในการเริ่มงานในสภาพแวดล้อมใหม่ แผนงานนี้ควรประกอบด้วยการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของสถานศึกษา การกำหนดเป้าหมายในการทำงาน แผนการจัดการเรียนการสอน แผนการพัฒนานักเรียน และแผนการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสถานศึกษาและชุมชน
หนังสือยินยอมจากสถานศึกษาเดิมเป็นเอกสารสำคัญที่แสดงถึงการยอมรับจากหน่วยงานต้นสังกัดในการที่ครูจะย้ายไปปฏิบัติงานในที่ใหม่ หนังสือนี้ต้องระบุถึงสถานะของครูในสถานศึกษา ผลการปฏิบัติงาน ภาระหน้าที่ที่รับผิดชอบ และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในอนาคต นอกจากนี้ยังต้องระบุถึงการจัดการงานที่ครูรับผิดชอบให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องหลังจากการย้าย
สำหรับครูที่ดำรงตำแหน่งพิเศษหรือมีภาระงานเพิ่มเติม เช่น หัวหน้างาน หัวหน้าสาขาวิชา หรือผู้รับผิดชอบโครงการสำคัญ จำเป็นต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมที่แสดงถึงการส่งมอบงานและการจัดการภาระงานที่รับผิดชอบให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เอกสารเหล่านี้ต้องมีการรับรองจากผู้บังคับบัญชาและแสดงถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
การจัดเตรียมเอกสารประกันคุณภาพการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับครูที่จะย้ายไปในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการบริหารหรือการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ครูต้องยื่นหลักฐานการมีส่วนร่วมในกิจกรรมประกันคุณภาพการศึกษา การจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา การดำเนินงานตามมาตรฐานการศึกษา และการประเมินคุณภาพการศึกษา เอกสารเหล่านี้จะแสดงถึงความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ในด้านการประกันคุณภาพการศึกษา
แบบรายงานการใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนเป็นเอกสารที่ร่วมสมัยและจำเป็นในยุคปัจจุบัน ครูต้องรายงานเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาสื่อการเรียนการสอน การใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ และการประเมินผลการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยี รายงานนี้ควรมีหลักฐานการใช้งานจริงและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีในการศึกษา
เอกสารเกี่ยวกับการจัดการความหลากหลายทางการศึกษาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ครูต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ นักเรียนที่มีความสามารถแตกต่างกัน และนักเรียนที่มาจากพื้นฐานทางสังคมและเศรษฐกิจที่หลากหลาย เอกสารนี้ควรประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนการสอนแบบไม่เลือกปฏิบัติ กิจกรรมที่ส่งเสริมความเสมอภาค และวิธีการประเมินที่เหมาะสมกับความแตกต่างของนักเรียน
หนังสือรับรองจากผู้ปกครองหรือชุมชนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมพัฒนาชุมชนเป็นเอกสารที่แสดงถึงการมองครูในมิติที่กว้างขึ้นจากการเป็นเพียงผู้สอน ครูสมัยใหม่ต้องมีบทบาทในการพัฒนาชุมชนและสังคม หนังสือรับรองนี้ควรระบุถึงกิจกรรมที่ครูได้เข้าร่วมหรือเป็นผู้นำในการพัฒนาชุมชน การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียนและชุมชน และการถ่ายทอดความรู้สู่ชุมชน
การจัดทำแฟ้มสะสมผลงานหรือพอร์ตโฟลิโอเป็นวิธีการที่ดีในการนำเสนอความสามารถและประสบการณ์ของครูอย่างเป็นระบบ แฟ้มสะสมผลงานควรประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนการสอนที่โดดเด่น สื่อการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น ผลงานของนักเรียน รูปภาพกิจกรรมการเรียนการสอน บันทึกการสะท้อนคิดของครู และเอกสารอื่นๆ ที่แสดงถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของครู
สำหรับครูที่มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศหรือมีความสามารถด้านภาษาต่างประเทศจำเป็นต้องยื่นเอกสารประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม เช่น ใบรับรองความสามารถทางภาษา ประสบการณ์การทำงานกับโครงการระหว่างประเทศ การเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม หรือความสามารถในการจัดการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนต่างชาติ เอกสารเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับสถานศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอนในลักษณะนานาชาติหรือมีนักเรียนต่างชาติ
การเตรียมเอกสารการย้ายครูไม่ใช่เพียงแค่การรวบรวมกระดาษเอกสารเท่านั้น แต่เป็นการเตรียมตัวอย่างครอบคลุมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ในสภาพแวดล้อมการทำงานใหม่ ครูที่เตรียมเอกสารอย่างถูกต้องและครบถ้วนจะมีโอกาสสำเร็จในการย้ายมากกว่าและสามารถปรับตัวเข้ากับสถานศึกษาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว การลงทุนเวลาและความพยายามในการเตรียมเอกสารจึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่สดใสในวิชาชีพครู
“การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2567 : แนวทางและระเบียบการย้ายกรณีปกติ”
ความสำคัญของการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นกระบวนการสำคัญที่มีบทบาทในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา โดยเฉพาะการย้ายครู ซึ่งเป็นการปรับตำแหน่งและพัฒนาองค์ความรู้เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในภาคการศึกษา การย้ายครูในปี พ.ศ. 2567 ถือเป็นการย้ายในกรณีปกติ ซึ่งครูสามารถย้ายตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยมุ่งเน้นการย้ายเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละสถานศึกษาและการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในโรงเรียนต่างๆ ตามความเหมาะสมของสถานการณ์การศึกษาทั่วไป
การย้ายข้าราชการครูในกรณีปกติจะดำเนินการตามกระบวนการที่มีการกำหนดเงื่อนไขและระเบียบที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมกับผู้ที่เข้าร่วมกระบวนการ การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษายังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน การย้ายตำแหน่งให้ตรงกับความเชี่ยวชาญและความสามารถในด้านต่างๆ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการศึกษาในระดับชาติในที่สุด
ขั้นตอนและกระบวนการในการย้ายข้าราชการครูในปี พ.ศ. 2567
การย้ายข้าราชการครูในปี พ.ศ. 2567 ภายใต้การย้ายในกรณีปกติ มีขั้นตอนและกระบวนการที่ต้องปฏิบัติอย่างเป็นระเบียบ โดยจะมีการประกาศให้ครูทุกคนที่ต้องการย้ายดำเนินการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่มีดังนี้
- การเตรียมเอกสาร : ข้าราชการครูที่จะย้ายต้องเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น แบบฟอร์มการย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ประวัติการทำงาน เอกสารแสดงผลการประเมินการปฏิบัติงาน ฯลฯ เพื่อใช้ในการย้าย
- การสมัครย้าย : ครูที่ต้องการย้ายจะต้องกรอกข้อมูลและส่งใบสมัครผ่านระบบที่กำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รวมทั้งการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร
- การพิจารณา : สพฐ. จะทำการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่สมัครย้าย โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ความเหมาะสมของตำแหน่ง ความต้องการของสถานศึกษา ความสามารถของครู ฯลฯ
- การประกาศผลการย้าย : หลังจากการพิจารณาเสร็จสิ้น จะมีการประกาศผลการย้ายและแจ้งให้ผู้ที่ได้รับการย้ายทราบ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนถัดไป
การย้ายในกรณีปกติจะพิจารณาความเหมาะสมในการย้ายเพื่อให้ได้ครูที่มีความสามารถและความเชี่ยวชาญตรงตามความต้องการของโรงเรียน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความพร้อมในการทำงาน การพัฒนาทักษะและประสบการณ์ และการปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่
ผลกระทบของการย้ายข้าราชการครูต่อการพัฒนาการศึกษา
การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในกรณีปกติ ประจำปี พ.ศ. 2567 จะมีผลกระทบต่อการพัฒนาการศึกษาทั้งในระดับสถานศึกษาและในระดับชาติ โดยสามารถพิจารณาผลกระทบได้ในด้านต่างๆ ดังนี้
- การกระจายครูไปยังพื้นที่ขาดแคลน : การย้ายครูจะช่วยกระจายทรัพยากรบุคคลในพื้นที่ที่มีความต้องการครูอย่างเร่งด่วน ทำให้มีครูที่มีความสามารถไปช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่ห่างไกล
- การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน : การย้ายครูที่มีทักษะเฉพาะด้านไปยังสถานศึกษาที่ต้องการสามารถช่วยยกระดับการเรียนการสอนได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของการพัฒนาทักษะการสอนและการประยุกต์ใช้วิธีการใหม่ๆ
- การเสริมสร้างประสบการณ์ : การย้ายครูช่วยให้ครูได้พัฒนาทักษะการทำงานในบริบทที่หลากหลาย ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์และทักษะในการทำงานที่สามารถนำไปใช้ในอนาคต
- การเพิ่มความพึงพอใจและแรงจูงใจในการทำงาน: เมื่อครูสามารถย้ายไปในตำแหน่งที่เหมาะสมกับความถนัดและความสนใจ จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจในงาน ส่งผลให้ครูมีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองและพัฒนาการศึกษา
ด้วยกระบวนการย้ายข้าราชการครูที่โปร่งใสและเป็นธรรม การย้ายในกรณีปกติประจำปี พ.ศ. 2567 จะมีผลดีต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งในด้านการจัดการศึกษาทั้งในและนอกพื้นที่ พร้อมทั้งการส่งเสริมการพัฒนาผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างไฟล์เอกสาร




