สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก ครูต้นไผ่ดอทคอม ทุกท่านครับ วันนี้พบกับ ครูต้นไผ่ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ เอกสารประกอบการอบรม หลักสูตร “ผู้ดำเนินการคัดกรองคนพิการทางการศึกษา” ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทาง ในการใช้เอกสารประกอบการอบรม หลักสูตร “ผู้ดำเนินการคัดกรองคนพิการทางการศึกษา” ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ เอกสารประกอบการอบรม หลักสูตร “ผู้ดำเนินการคัดกรองคนพิการทางการศึกษา” ตามรายละเอียดดังนี้ ครับ
ดาวน์โหลด เอกสารประกอบการอบรม หลักสูตร “ผู้ดำเนินการคัดกรองคนพิการทางการศึกษา” โดย สพป.บุรีรัมย์ เขต 2

การพัฒนาศักยภาพผู้ดำเนินการคัดกรองคนพิการทางการศึกษา เส้นทางสู่การศึกษาที่เท่าเทียมและครอบคลุมทุกคน
การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะมีความแตกต่างทางร่างกายจิตใจหรือสติปัญญาอย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการศึกษาเพื่อรองรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการคัดกรองและประเมินนักเรียนที่อาจมีความบกพร่องหรือความต้องการพิเศษทางการเรียนรู้
หลักสูตรผู้ดำเนินการคัดกรองคนพิการทางการศึกษาจึงเป็นหลักสูตรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศ เนื่องจากเป็นการสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในการระบุและประเมินนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม การคัดกรองที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้นักเรียนเหล่านี้ได้รับการดูแลและการศึกษาที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง
ความสำคัญของการคัดกรองคนพิการทางการศึกษาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการระบุความพิการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการประเมินความสามารถศักยภาพและความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล การคัดกรองที่ดีจะต้องเป็นกระบวนการที่ครอบคลุมการประเมินในหลายมิติ ทั้งด้านการเรียนรู้พัฒนาการทางสังคมอารมณ์และพฤติกรรม เพื่อให้สามารถวางแผนการจัดการศึกษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด
บุคลากรที่ทำหน้าที่ในการคัดกรองจะต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับลักษณะของความพิการแต่ละประเภท วิธีการประเมินที่เหมาะสม และการใช้เครื่องมือการประเมินต่างๆ อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังต้องมีทักษะในการสื่อสารกับนักเรียนผู้ปกครองและบุคลากรทางการศึกษาอื่นๆ เพื่อให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียน
การอบรมหลักสูตรนี้จึงครอบคลุมเนื้อหาที่หลากหลายและเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่ทฤษฎีพื้นฐานเกี่ยวกับความพิการและการศึกษาพิเศษ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของความพิการต่างๆ และผลกระทบที่มีต่อการเรียนรู้ รวมไปถึงการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาสำหรับผู้พิการ
หลักการสำคัญของการคัดกรองคนพิการทางการศึกษาประกอบด้วยหลายองค์ประกอบที่สำคัญ ซึ่งผู้เข้าอบรมจะต้องเรียนรู้และฝึกปฏิบัติจนเกิดความชำนาญ องค์ประกอบแรกคือการสังเกตและการประเมินเบื้องต้น ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและความเข้าใจในพฤติกรรมและการแสดงออกของนักเรียนในสถานการณ์ต่างๆ
การสังเกตที่มีประสิทธิภาพจะต้องเป็นการสังเกตที่เป็นระบบ มีการบันทึกข้อมูลที่ชัดเจนและสามารถนำไปวิเคราะห์ได้ นักเรียนแต่ละคนมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน การสังเกตจึงต้องคำนึงถึงบริบทของแต่ละบุคคล รวมทั้งสิ่งแวดล้อมทางครอบครัวสังคมและวัฒนธรรมที่อาจส่งผลต่อพฤติกรรมและการเรียนรู้
เครื่องมือการประเมินที่ใช้ในการคัดกรองมีหลายประเภท ตั้งแต่แบบประเมินมาตรฐานที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงและความน่าเชื่อถือแล้ว ไปจนถึงเครื่องมือการประเมินเฉพาะด้านที่ออกแบบมาสำหรับประเมินทักษะหรือความสามารถเฉพาะเจาะจง การเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการประเมินและลักษณะของผู้รับการประเมินจึงเป็นทักษะสำคัญที่ผู้ดำเนินการคัดกรองต้องมี
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความพิการประเภทต่างๆ เป็นส่วนสำคัญของหลักสูตรนี้ ความพิการทางการมองเห็นมีตั้งแต่การมองเห็นบางส่วนไปจนถึงการตาบอดสนิท ผู้คัดกรองจะต้องเข้าใจว่าความพิการแต่ละระดับส่งผลต่อการเรียนรู้อย่างไร และจะต้องจัดเตรียมสื่อการเรียนรู้และวิธีการสอนที่เหมาะสมอย่างไร เช่น การใช้อักษรเบรลล์ เทคโนโลยีช่วยการมองเห็น หรือการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
ความพิการทางการได้ยินก็เช่นกัน มีตั้งแต่การได้ยินลดลงเล็กน้อยไปจนถึงการหูหนวกสนิท ผลกระทบต่อการพัฒนาภาษาและการสื่อสารจึงแตกต่างกันไปตามระดับของความพิการ ผู้คัดกรองต้องเข้าใจถึงความสำคัญของการพัฒนาภาษามือการอ่านริมฝีปากและการใช้เทคโนโลยีช่วยฟัง รวมทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้สำหรับนักเรียนที่มีความพิการทางการได้ยิน
ความพิการทางร่างกายและสุขภาพ ครอบคลุมความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว โรคเรื้อรัง และภาวะสุขภาพที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ ผู้คัดกรองจะต้องเข้าใจถึงข้อจำกัดและความสามารถของนักเรียนแต่ละคน เพื่อวางแผนการจัดการศึกษาที่เหมาะสม รวมทั้งการปรับสภาพแวดล้อมทางกายภาพและการใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ
ความพิการทางสติปัญญาและพัฒนาการเป็นด้านที่ต้องการความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและความละเอียดอ่อนในการประเมิน การประเมินสติปัญญาไม่ใช่เพียงการวัดความรู้หรือทักษะทางวิชาการเท่านั้น แต่รวมถึงการประเมินทักษะการปรับตัวทักษะชีวิตประจำวันและศักยภาพในการเรียนรู้ด้วย ผู้คัดกรองต้องเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างความล่าช้าทางพัฒนาการกับความพิการทางสติปัญญา
ความบกพร่องทางการเรียนรู้เป็นอีกกลุ่มหึ่งที่ต้องการการคัดกรองที่ละเอียดและแม่นยำ เนื่องจากนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้มักมีสติปัญญาปกติหรือสูงกว่าปกติ แต่มีปัญหาเฉพาะด้านในการประมวลผลข้อมูล เช่น ปัญหาการอ่าน การเขียน หรือคณิตศาสตร์ การคัดกรองจึงต้องใช้เครื่องมือและวิธีการที่เฉพาะเจาะจง
ความผิดปกติทางออทิสซึมและความบกพร่องทางพัฒนาการแพร่หลายต้องการความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะพฤติกรรมและความต้องการเฉพาะ ผู้คัดกรองต้องสามารถแยกแยะระหว่างพฤติกรรมที่เป็นลักษณะของออทิสซึมกับพฤติกรรมอื่นๆ และเข้าใจถึงจุดแข็งและความท้าทายของนักเรียนในกลุ่มนี้
กระบวนการคัดกรองที่มีคุณภาพจะต้องเป็นกระบวนการที่เป็นระบบและต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่การรับข้อมูลเบื้องต้นจากแหล่งต่างๆ เช่น ผู้ปกครอง ครูผู้สอน หรือบุคลากรทางการแพทย์ การรวบรวมข้อมูลประวัติการเจ็บป่วยประวัติการเรียนและพัฒนาการในอดีต รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางครอบครัวและสังคม
การวางแผนการประเมินต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการประเมิน ลักษณะของผู้รับการประเมิน และทรัพยากรที่มีอยู่ การเลือกเครื่องมือการประเมินต้องเหมาะสมกับอายุระดับพัฒนาการและความสามารถในการสื่อสารของผู้รับการประเมิน การจัดสภาพแวดล้อมในการประเมินให้เอื้ออำนวยต่อการแสดงความสามารถที่แท้จริงของผู้รับการประเมิน
การดำเนินการประเมินจะต้องเป็นไปตามหลักการและจรรยาบรรณของการประเมิน ผู้ประเมินต้องมีความเป็นกลางไม่มีอคติและให้ความเคารพต่อศักดิ์ศรีของผู้รับการประเมิน การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้รับการประเมินจะช่วยให้ได้ผลการประเมินที่แท้จริงและน่าเชื่อถือ
การตีความผลการประเมินและการเขียนรายงานเป็นทักษะสำคัญที่ต้องการความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง รายงานการประเมินต้องชัดเจนครอบคลุมและเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการจัดการศึกษา การใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและหลีกเลี่ยงการตีความผิดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
การทำงานเป็นทีมเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญในการคัดกรองคนพิการทางการศึกษา ผู้ดำเนินการคัดกรองไม่ได้ทำงานคนเดียวแต่ต้องทำงานร่วมกับบุคลากรหลายฝ่าย ได้แก่ ครูผู้สอน ผู้บริหารสถานศึกษา นักจิตวิทยา นักกิจกรรมบำบัด แพทย์ ผู้ปกครอง และตัวนักเรียนเอง การสื่อสารและการประสานงานที่มีประสิทธิภาพจะส่งผลต่อคุณภาพของการให้บริการ
การสื่อสารกับผู้ปกครองต้องใช้ความละเอียดอ่อนและความเข้าใจในความรู้สึกของพ่อแม่ที่อาจมีความกังวลหรือความไม่เข้าใจเกี่ยวกับสภาพของบุตรหลาน การให้ข้อมูลที่ถูกต้องและการสร้างความเข้าใจร่วมกันจะช่วยให้เกิดการร่วมมือที่ดีในการพัฒนาเด็ก
การทำงานร่วมกับครูผู้สอนต้องเน้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ ครูผู้สอนมีโอกาสสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระยะเวลาที่ยาวนานและในสถานการณ์จริง ข้อมูลจากครูจึงมีค่าอย่างมากสำหรับการคัดกรอง ในขณะเดียวกันผู้คัดกรองก็ต้องสามารถถ่ายทอดความรู้และข้อเสนอแนะเพื่อช่วยให้ครูเข้าใจและสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม
เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการคัดกรองและการจัดการศึกษาพิเศษ ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีช่วยในการประเมิน เช่น โปรแกรมประเมินทางจิตวิทยา แอปพลิเคชันสำหรับประเมินทักษะต่างๆ และระบบจัดการข้อมูลนักเรียน
การใช้เทคโนโลยีช่วยการเรียนรู้สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญ ผู้คัดกรองต้องมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่สามารถช่วยเหลือนักเรียนได้ เช่น โปรแกรมเสียงพูดสำหรับผู้ที่มีปัญหาการมองเห็น โปรแกรมแปลงคำพูดเป็นข้อความสำหรับผู้ที่มีปัญหาการได้ยิน หรือแอปพลิเคชันช่วยในการสื่อสารสำหรับเด็กออทิสติก
การจัดเก็บและการรักษาความลับของข้อมูลเป็นประเด็นจรรยาบรรณที่สำคัญมาก ข้อมูลการประเมินทางจิตวิทยาและการศึกษาเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องได้รับการปกป้อง ผู้ดำเนินการคัดกรองต้องเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การใช้ข้อมูลจากการคัดกรองต้องมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน ข้อมูลไม่ควรถูกนำไปใช้ในทางที่จะสร้างความเสียหายหรือการเลือกปฏิบัติต่อนักเรียน การแบ่งปันข้อมูลกับบุคคลอื่นต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองและต้องมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของนักเรียน
การประเมินผลและการติดตามความก้าวหน้าเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการคัดกรอง การคัดกรองไม่ใช่กิจกรรมที่ทำเพียงครั้งเดียวแล้วจบ แต่ต้องมีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูว่าการจัดการศึกษาที่วางไว้มีความเหมาะสมหรือไม่ และต้องปรับปรุงแก้ไขในส่วนใด
การพัฒนาแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญของการคัดกรอง แผนการศึกษาเฉพาะบุคคลต้องสะท้อนถึงความต้องการจุดแข็งและเป้าหมายของนักเรียนแต่ละคน การเขียนแผนต้องชัดเจนเป็นรูปธรรมและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
การวัดผลประเมินผลความก้าวหน้าของนักเรียนต้องใช้เกณฑ์และวิธีการที่เหมาะสมกับความสามารถและศักยภาพของแต่ละคน การเปรียบเทียบกับนักเรียนทั่วไปอาจไม่เหมาะสม ควรเน้นการประเมินพัฒนาการของตัวนักเรียนเองเมื่อเปรียบเทียบกับอดีต
การปรับปรุงแผนการศึกษาตามผลการประเมินเป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ การเปลี่ยนแปลงแผนต้องอิงจากข้อมูลที่เป็นจริงและต้องมีการปรึกษาหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ ระบบการศึกษาและสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ผู้ดำเนินการคัดกรองต้องพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
การพัฒนาอาชีพอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็น ผู้ปฏิบัติงานต้องติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ เข้าร่วมการอบรมสัมมนา และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนร่วมวิชาชีพ การเป็นสมาชิกของสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้ได้รับข้อมูลข่าวสารและโอกาสในการพัฒนา
เอกสารประกอบการอบรม หลักสูตร “ผู้ดำเนินการคัดกรองคนพิการทางการศึกษา”
กระทรวงศึกษาธิการได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการรับรองบุคคลของสถานศึกษาว่าเป็นคนพิการตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้คนพิการมีสิทธิได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกสื่อบริการและความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๕๐ ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยได้ออกประกาศคณะกรรมการพิจารณาให้คนพิการได้รับสิทธิทางช่วยเหลือทางการศึกษา เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการรับรองบุคคลของสถานศึกษาว่าเป็นคนพิการ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๖ เป็นต้นไป โดยสาระ
ของประกาศ คือ คนพิการที่จะได้รับสิทธิช่วยเหลือทางการศึกษา ต้องได้รับการคัดกรองตามแบบที่กำหนด ซึ่งผู้ดำเนินการคัดกรองต้องได้รับการอบรมวิธีการใช้แบบคัดกรองคนพิการทางการศึกษาอย่างถูกต้อง ก่อนปฏิบัติหน้าที่
ดังนั้น เพื่อให้นักเรียนที่สถานศึกษารับรองว่าเป็นคนพิการทางการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์ของคนพิการทางการศึกษา ได้รับการศึกษาอย่างครอบคลุมและทั่วถึง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต ๒ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้จัดให้มีการอบรมหลักสูตร “ผู้ดำเนินการคัดกรองคนพิการทางการศึกษา” ให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด ให้มีความรู้ความสามารถในการใช้แบบคัดกรองตามที่แนบท้ายประกาศดังกล่าว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารประกอบการอบรมฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ข้างต้นอย่างมีประสิทธิภาพ
“คนพิการ” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือเข้าไปมีส่วนร่วมทางสังคม เนื่องจากมีความบกพร่องทางการเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหว การสื่อสาร จิตใจ อารมณ์ พฤติกรรม สติปัญญา การเรียนรู้ หรือความบกพร่องอื่นใดประกอบกับมีอุปสรรคในด้านต่างๆ และมีความต้องการ จำเป็นพิเศษทางการศึกษาที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือด้านหนึ่งด้านใด เพื่อให้สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือเข้าไปมีส่วนร่วมทางสังคมได้อย่างบุคคลทั่วไปทั้งนี้ ตามประเภทและหลักเกณฑ์
ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด
“ผู้ปกครองคนพิการ” หมายความว่า บิดา มารดา ผู้ปกครอง บุตร สามี ภรรยา ญาติ พี่น้องหรือบุคคลอื่นใดที่รับดูแลหรือรับอุปการะคนพิการ
“แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล” หมายความว่า แผนซึ่งกำหนด แนว ทางการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นพิเศษของคนพิการ ตลอดจนกำหนดเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาเฉพาะบุคคล
เอกสารประกอบการอบรม”ผู้ดําเนินการคัดกรองคนพิการทางการศึกษา”
“เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก” หมายความว่า เครื่องมือ อุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์หรือบริการที่ใช้สำหรับคนพิการโดยเฉพาะ หรือที่มีการดัดแปลงหรือปรับใช้ให้ตรงกับความต้องการจำเป็นพิเศษของคนพิการแต่ละบุคคล เพื่อเพิ่ม รักษา คงไว้ หรือพัฒนาความสามารถและศักยภาพที่จะเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร การสื่อสาร รวมถึงกิจกรรมอื่นใดในชีวิตประจำวันเพื่อการดำรงชีวิตอิสระ
“ครูการศึกษาพิเศษ” หมายความว่า ครูที่มีวุฒิทางการศึกษาพิเศษสูงกว่าระดับปริญญาตรีขึ้นไปและปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
“การเรียนร่วม” หมายความว่า การจัดให้คนพิการได้เข้าศึกษาในระบบการศึกษาทั่วไปทุกระดับและหลากหลายรูปแบบรวมถึงการจัดการศึกษาให้สามารถรองรับการเรียนการสอนสำหรับคนทุกกลุ่มรวมทั้งคนพิการ
“สถานศึกษาเฉพาะความพิการ” หมายความว่า สถานศึกษาของรัฐหรือเอกชนที่จัดการศึกษาสำหรับคนพิการโดยเฉพาะทั้งในลักษณะอยู่ประจำไป – กลับและรับบริการที่บ้าน
“ศูนย์การศึกษาพิเศษ” หมายความว่า สถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษานอกระบบ หรือตามอัธยาศัยแก่คนพิการ ตั้งแต่แรกเกิดหรือแรกพบความพิการจนตลอดชีวิต และจัดการศึกษาอบรมแก่ผู้ปกครองคนพิการ ครู บุคลากรและชุมชน รวมทั้งการจัดสื่อ เทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก บริการและความช่วยเหลืออื่นใด ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กำหนดในประกาศกระทรวง
ตัวอย่างไฟล์เอกสาร





