วันเสาร์, ตุลาคม 18, 2025
spot_img
หน้าแรกข่าวการศึกษาเกณฑ์การแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 71 ปีการศึกษา 2566 (ประเภทวิชาการ) นำมาใช้ในครั้งที่ 72 โดย สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ.

เกณฑ์การแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 71 ปีการศึกษา 2566 (ประเภทวิชาการ) นำมาใช้ในครั้งที่ 72 โดย สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ.


สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก ครูต้นไผ่ดอทคอม ทุกท่านครับ วันนี้พบกับ ครูต้นไผ่ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ เกณฑ์การแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 71 ปีการศึกษา 2566 (ประเภทวิชาการ) นำมาใช้ในครั้งที่ 72 ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทาง ในการเรียนรู้หลักเกณฑ์การแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 71 ปีการศึกษา 2566 (ประเภทวิชาการ) นำมาใช้ในครั้งที่ 72 ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ เกณฑ์การแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 71 ปีการศึกษา 2566 (ประเภทวิชาการ) นำมาใช้ในครั้งที่ 72 ตามรายละเอียดดังนี้ ครับ

เกณฑ์การแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 71 ปีการศึกษา 2566 (ประเภทวิชาการ) นำมาใช้ในครั้งที่ 72 โดย สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ.


เกณฑ์การแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 71 ปีการศึกษา 2566 ประเภทวิชาการ นำมาใช้ในครั้งที่ 72 แนวทางสำคัญสำหรับครูและนักเรียน

งานศิลปะหัตถกรรมนักเรียนถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่กระทรวงศึกษาธิการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านศิลปะและหัตถกรรมของเด็กและเยาวชนไทย การแข่งขันในครั้งที่ 71 ปีการศึกษา 2566 ได้วางเกณฑ์มาตรฐานที่ชัดเจนและเป็นระบบ ซึ่งเกณฑ์เหล่านี้จะนำมาใช้ต่อเนื่องในการแข่งขันครั้งที่ 72 โดยเฉพาะในประเภทวิชาการที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะและความรู้ของนักเรียนอย่างยิ่ง

การกำหนดเกณฑ์การแข่งขันประเภทวิชาการในงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียนมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาและพัฒนาศักยภาพของนักเรียนให้สามารถแสดงออกถึงความรู้ความสามารถอย่างเต็มศักยภาพ เกณฑ์เหล่านี้ครอบคลุมทั้งด้านเนื้อหาความรู้ ทักษะการปฏิบัติ และการนำเสนอผลงานที่สะท้อนถึงความเป็นไทยและความคิดสร้างสรรค์

เกณฑ์การประเมินประเภทวิชาการในการแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 71 ได้ปรับปรุงและพัฒนาจากครั้งก่อนๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้แบบบูรณาการที่เชื่อมโยงระหว่างศิลปะและวิชาการต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาผู้เรียน

การจัดประเภทวิชาการในงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียนแบ่งออกเป็นหลายสาขาที่สำคัญ ได้แก่ การเขียนเรียงความ การแต่งคำประพันธ์ การอ่านออกเสียง การเล่าเรื่อง การนิเทศศิลป์ และการวิจัยทางศิลปะ แต่ละสาขามีเกณฑ์การประเมินที่เฉพาะเจาะจงและสอดคล้องกับลักษณะของสาขานั้นๆ โดยเน้นการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการนำเสนอผลงานอย่างมีคุณภาพ

สำหรับสาขาการเขียนเรียงความ เกณฑ์การประเมินมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องและสวยงาม การจัดลำดับความคิดอย่างเป็นระบบ ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ การเชื่อมโยงเนื้อหากับประสบการณ์ชีวิตจริง และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ นักเรียนต้องสามารถเขียนเรียงความที่มีเนื้อหาสาระสมบูรณ์ มีการใช้ภาษาที่เหมาะสม และสะท้อนถึงความเป็นไทยในเนื้อหาหรือรูปแบบการเขียน

การแต่งคำประพันธ์เป็นอีกสาขาหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เกณฑ์การประเมินจะพิจารณาจากความถูกต้องของฉันท์ลักษณ์และกฎเกณฑ์ของคำประพันธ์แต่ละประเภท ความงามของภาษาและการใช้คำ ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอเรื่องราว การสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกผ่านบทประพันธ์ และความสามารถในการสะท้อนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย นักเรียนจะต้องแสดงความสามารถในการใช้ภาษาไทยในระดับสูงและมีความเข้าใจลึกซึ้งในศิลปะการแต่งคำประพันธ์

สาขาการอ่านออกเสียงมีเกณฑ์การประเมินที่เน้นทักษะการสื่อสาร การออกเสียงที่ถูกต้องชัดเจน การใช้น้ำเสียงที่เหมาะสมกับเนื้อหา การแสดงออกทางอารมณ์ผ่านเสียงพูด ความเข้าใจในเนื้อหาที่อ่าน และความสามารถในการดึงดูดความสนใจของผู้ฟัง นักเรียนต้องมีทักษะการอ่านที่ดี เข้าใจเนื้อหาอย่างถ่องแท้ และสามารถถ่ายทอดความหมายและอารมณ์ของเนื้อหาให้ผู้ฟังเข้าใจและรู้สึกไปตาม

การเล่าเรื่องเป็นศิลปะการสื่อสารที่ผสมผสานระหว่างการใช้ภาษาและการแสดง เกณฑ์การประเมินจะดูที่ความสามารถในการสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจ การใช้ภาษาท่าทางและสีหน้าประกอบการเล่า ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอ ความสามารถในการดึงดูดและรักษาความสนใจของผู้ฟัง การจัดลำดับเหตุการณ์อย่างเป็นระบบ และการสื่อสารคุณค่าหรือข้อคิดผ่านเรื่องที่เล่า

สาขาการนิเทศศิลป์มีความพิเศษตรงที่เป็นการผสมผสานระหว่างความรู้ทางศิลปะและทักษะการสื่อสาร เกณฑ์การประเมินจะพิจารณาความรู้ความเข้าใจในศิลปะและประวัติศาสตร์ศิลป์ ความสามารถในการวิเคราะห์และตีความผลงานศิลปะ ทักษะการนำเสนอที่ชัดเจนและน่าสนใจ การใช้ภาษาที่เหมาะสมและเข้าใจง่าย และความสามารถในการเชื่อมโยงผลงานศิลปะกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรม นักเรียนต้องมีความรู้พื้นฐานทางศิลปะที่แข็งแกร่งและสามารถถ่ายทอดความรู้นั้นให้ผู้อื่นเข้าใจได้

การวิจัยทางศิลปะเป็นสาขาที่ท้าทายและต้องการความรู้เชิงลึก เกณฑ์การประเมินจะดูที่ความสามารถในการกำหนดปัญหาวิจัยที่ชัดเจนและน่าสนใจ การทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง การเลือกใช้วิธีการวิจัยที่เหมาะสม การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ การนำเสนอผลการวิจัยที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ และการอภิปรายผลที่แสดงถึงความเข้าใจลึกซึ้งในประเด็นที่ศึกษา

การเตรียมความพร้อมของนักเรียนสำหรับการแข่งขันประเภทวิชาการจึงต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ครูผู้สอนและโรงเรียนต้องทำความเข้าใจเกณฑ์การประเมินให้ชัดเจน จัดการเรียนการสอนที่เน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็น สร้างโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกฝนและแสดงความสามารถ รวมทั้งให้คำแนะนำและการสนับสนุนที่เหมาะสม

การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการแข่งขันประเภทวิชาการ นักเรียนต้องสามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง สังเคราะห์ความรู้จากแหล่งต่างๆ และนำเสนอแนวคิดใหม่ที่มีคุณค่า การฝึกฝนทักษะเหล่านี้ต้องทำอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบผ่านกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลาย

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเตรียมตัวและการแข่งขันก็มีความสำคัญไม่น้อย แม้ว่าการแข่งขันประเภทวิชาการจะเน้นทักษะพื้นฐานทางภาษาและการคิด แต่การใช้เทคโนโลยีในการค้นคว้าข้อมูล การจัดทำงานนำเสนอ และการสื่อสารผลงานจะช่วยเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพของการแข่งขัน

การส่งเสริมและพัฒนาความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมไทยเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันประเภทวิชาการ นักเรียนต้องมีความเข้าใจในประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทยเป็นอย่างดี เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นฐานในการคิด การเขียน และการนำเสนอผลงานที่สะท้อนถึงความเป็นไทย การเรียนรู้นี้ไม่ควรเป็นเพียงการท่องจำ แต่ต้องเป็นการเข้าใจอย่างลึกซึ้งและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้

การพัฒนาบุคลิกภาพและทักษะการสื่อสารของนักเรียนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การแข่งขันประเภทวิชาการหลายสาขาต้องการการนำเสนอต่อหน้าผู้ตัดสิน นักเรียนต้องมีความมั่นใจ การใช้ภาษาที่เหมาะสม ท่าทางที่สุภาพ และความสามารถในการควบคุมอารมณ์ในสถานการณ์ที่มีแรงกดดัน

ระบบการคัดเลือกและการเตรียมตัวระดับโรงเรียนต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การสำรวจความสามารถของนักเรียน การจัดกิจกรรมคัดเลือกภายในโรงเรียน การฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น การจัดหาทรัพยากรและสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสม และการสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะ

การสร้างแรงจูงใจและการให้กำลังใจแก่นักเรียนเป็นปัจจัยสำคัญที่มักถูกมองข้าม การแข่งขันประเภทวิชาการต้องใช้ความพยายามและความอดทนสูง นักเรียนอาจเผชิญกับความยากลำบากและความผิดหวัง ครูและผู้ปกครองต้องคอยให้การสนับสนุนทางใจ ช่วยสร้างความมั่นใจ และชี้แนะแนวทางการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์

การประเมินผลและการให้ข้อมูลป้อนกลับที่มีคุณภาพจะช่วยให้นักเรียนเห็นจุดที่ต้องปรับปรุงและพัฒนา การประเมินควรเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด เป็นธรรม และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา ไม่ใช่เพียงการให้คะแนนหรือการจัดอันดับเท่านั้น

การเชื่อมโยงการแข่งขันประเภทวิชาการกับหลักสูตรและการเรียนการสอนปกติจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทักษะและความรู้ที่ได้จากการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันสามารถนำไปใช้ในวิชาเรียนอื่นๆ และในชีวิตประจำวันได้ การเรียนรู้จึงไม่ใช่เพียงเพื่อการแข่งขัน แต่เป็นการพัฒนาตนเองอย่างรอบด้าน

การจัดการความเครียดและความกดดันในระหว่างการเตรียมตัวและการแข่งขันเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ นักเรียนต้องเรียนรู้วิธีการผ่อนคลาย การจัดสมดุลระหว่างการเรียนและการพักผ่อน และการมองการแข่งขันเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง มากกว่าการมองเป็นภาระหรือแรงกดดัน

ความร่วมมือระหว่างครู ผู้ปกครอง และนักเรียนจะทำให้การเตรียมตัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกฝ่ายต้องเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเองและให้การสนับสนุนที่เหมาะสม ครูเป็นผู้ให้ความรู้และคำแนะนำ ผู้ปกครองให้กำลังใจและสนับสนุนด้านอื่นๆ ส่วนนักเรียนต้องมีความตั้งใจและความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง

การใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งก่อนๆ เป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่ง การเรียนรู้จากความสำเร็จและความผิดพลาดของคนอื่น การรับฟังคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ และการศึกษาผลงานที่มีคุณภาพจะช่วยให้นักเรียนมีแนวทางในการพัฒนาที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ

การสร้างเครือข่ายการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างโรงเรียนจะช่วยยกระดับคุณภาพการเตรียมตัวโดยรวม การจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การจัดการแข่งขันระดับกลุ่มโรงเรียน และการสร้างชุมชนการเรียนรู้จะทำให้เกิดการแข่งขันที่สร้างสรรค์และการพัฒนาร่วมกัน

การติดตามและประเมินผลการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาที่ดีขึ้น การเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้เข้าร่วม ผู้ตัดสิน และผู้เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุง และการนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการวางแผนการแข่งขันในครั้งต่อไป

ความยั่งยืนและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของการแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียนประเภทวิชาการขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกฝ่ายและการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี การรักษาคุณค่าดั้งเดิมในขณะเดียวกันกับการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ จะทำให้การแข่งขันมีความหมายและประโยชน์อย่างต่อเนื่อง

เกณฑ์การแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 71 ประเภทวิชาการที่จะนำมาใช้ในครั้งที่ 72 จึงไม่ใช่เพียงกฎเกณฑ์ธรรมดา แต่เป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนไทยให้เป็นผู้ที่มีความรู้ ทักษะ และคุณธรรมที่จำเป็นสำหรับการเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในศตวรรษที่ 21 การเข้าใจและนำเกณฑ์เหล่านี้ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาไทยในระยะยาว

เกณฑ์การแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 71 ปีการศึกษา 2566 (ประเภทวิชาการ) นำมาใช้ในครั้งที่ 72

เกณฑ์การแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียน

รายการแข่งขันฯ จำนวน 40 กิจกรรม 96 รายการ ได้ถูกปรับปรุงเกณฑ์ให้มีความชัดเจน สอดคล้อง และเป็นปัจจุบัน

เพื่อเป็นประโยชนในการพัฒนาและส่งเสริมสมรรถนะนักเรียนต่อไป

ซึ่งได้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับเกณฑ์การแข่งขันกิจกรรมต่างๆจำแนก ได้ดังนี้

1. การศึกษาระดับปฐมวัย

2. ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

2.1 กิจกรรมแยกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้

2.1.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

2.1.2 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

2.1.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

2.1.4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

2.2 กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตามหลักสูตร

2.2.1 การจัดทำหนังสือเล่มเล็ก

2.2.2 การจัดกิจกรรมยุวบรรณารักษ์เพื่อส่งเสริมการอ่าน

2.3 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสาร จากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ.

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

ข่าวยอดนิยม

ความคิดเห็นล่าสุด