สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก ครูต้นไผ่ดอทคอม ทุกท่านครับ วันนี้พบกับ ครูต้นไผ่ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ รวมคู่มือสสวท.วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการใช้หนังสือคู่มือสสวท.วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ รวมคู่มือสสวท.วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามรายละเอียดดังนี้ ครับ
ดาวน์โหลดฟรี รวมคู่มือสสวท.วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)

คู่มือสสวท.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1-6
การศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับประถมศึกษาถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาของเด็กไทย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ สสวท. ได้จัดทำหลักสูตรและคู่มือการเรียนการสอนที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
หลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ สสวท. มุ่งเน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง การทดลอง และการสำรวจธรรมชาติรอบตัว โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นสาขาหลักๆ ได้แก่ วิทยาศาสตร์กายภาพ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ และเทคโนโลยี แต่ละสาขามีความเชื่อมโยงกันและสร้างความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับโลกธรรมชาติ
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2 คู่มือ สสวท. เน้นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า เด็กๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตรอบตัว การสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติ และการแยกแยะความแตกต่างของวัสดุต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้จะเน้นการเล่นและสำรวจ เช่น การสังเกตการเจริญเติบโตของต้นไม้ การแยกประเภทของใบไม้ หรือการทดลองง่ายๆ เกี่ยวกับน้ำและอากาศ
เนื้อหาวิทยาศาสตร์ชีวภาพสำหรับนักเรียนป.1-2 จะครอบคลุมเรื่องร่างกายของตนเองและสัตว์ การดูแลสุขภาพเบื้องต้น และการรู้จักสิ่งมีชีวิตในสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย การทำงานของอวัยวะเหล่านั้น และวิธีการดูแลรักษาสุขภาพอย่างง่ายๆ นอกจากนี้ยังรวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับสัตว์และพืชที่อยู่รอบตัว การจำแนกประเภทเบื้องต้น และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่างๆ
วิทยาศาสตร์กายภาพสำหรับช่วงป.1-2 จะเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสมบัติของวัสดุและสสาร เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความแข็ง ความนิ่ม ความหยาบ ความเรียบ และสมบัติอื่นๆ ของวัสดุต่างๆ ผ่านการสัมผัสและการทดลองง่ายๆ การเรียนรู้เกี่ยวกับแสง เสียง และการเคลื่อนที่ก็เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร โดยเน้นการสำรวจและค้นพบผ่านกิจกรรมที่สนุกสนาน
เมื่อขึ้นสู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4 เนื้อหาจะเริ่มมีความลึกซึ้งมากขึ้น เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น ระบบย่อยอาหาร ระบบหายใจ และระบบไหลเวียนเลือดในระดับเบื้องต้น การศึกษาเกี่ยวกับพืชจะขยายไปสู่การเข้าใจเกี่ยวกับการสังเคราะห์แสง การหายใจของพืช และวัฏจักรชีวิตของพืช นักเรียนจะได้ทำการทดลองปลูกต้นไม้และสังเกตการเจริญเติบโต
วิทยาศาสตร์กายภาพในระดับป.3-4 จะเน้นการศึกษาเกี่ยวกับพลังงานและการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของพลังงาน เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานแสง พลังงานเสียง พลังงานความร้อน และพลังงานการเคลื่อนที่ ผ่านการทดลองง่ายๆ และการสังเกตปรากฏการณ์ธรรมชาติ การศึกษาเกี่ยวกับแม่เหล็กและไฟฟ้าเบื้องต้นก็จะเริ่มในช่วงนี้
วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศสำหรับนักเรียนป.3-4 จะครอบคลุมการศึกษาเกี่ยวกับลักษณะของดิน หิน และแร่ธาตุ การเข้าใจเกี่ยวกับสภาพอากาศและฤดูกาล รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับระบบสุริยะในระดับเบื้องต้น เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ต่างๆ ผ่านการสังเกตและการใช้แบบจำลอง
เทคโนโลยีสำหรับนักเรียนป.3-4 จะเน้นการออกแบบและสร้างสรรค์เครื่องมือง่ายๆ การแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางเทคโนโลยี และการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือพื้นฐาน เครื่องจักรง่าย และหลักการทำงานของเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 ถือเป็นช่วงที่เนื้อหามีความซับซ้อนและลึกซึ้งมากที่สุดในระดับประถมศึกษา เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบต่างๆ ในร่างกายอย่างละเอียดมากขึ้น รวมถึงระบบประสาท ระบบต่อมไร้ท่อ และระบบขับถ่าย การศึกษาเกี่ยวกับพันธุกรรมและการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรมก็จะเริ่มในช่วงนี้
วิทยาศาสตร์ชีวภาพป.5-6 จะขยายไปสู่การศึกษาเกี่ยวกับระบบนิเวศและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับห่วงโซ่อาหาร เครือข่ายอาหาร และการไหลเวียนของสารต่างๆ ในธรรมชาติ การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็เป็นหัวข้อสำคัญที่จะได้รับการศึกษาในช่วงนี้
วิทยาศาสตร์กายภาพป.5-6 จะเจาะลึกเกี่ยวกับสมบัติของสสารและการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับอะตอมและโมเลกุลในระดับเบื้องต้น การละลายและการแยกสาร รวมถึงปฏิกิริยาเคมีง่ายๆ การศึกษาเกี่ยวกับแสง เสียง และคลื่นก็จะมีความลึกซึ้งมากขึ้น พร้อมทั้งการทดลองที่ซับซ้อนขึ้น
ไฟฟ้าและแม่เหล็กจะเป็นหัวข้อสำคัญในป.5-6 เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้าง่ายๆ สมบัติของแม่เหล็ก และความสัมพันธ์ระหว่างไฟฟ้าและแม่เหล็ก การประยุกต์ใช้ความรู้เหล่านี้ในการสร้างเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศป.5-6 จะครอบคลุมการศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างของโลก การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก แผ่นดินไหว และภูเขาไฟ เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหิน แร่ธาตุ และฟอสซิล รวมถึงประวัติศาสตร์ของโลกผ่านการศึกษาชั้นหิน
การศึกษาเกี่ยวกับดาราศาสตร์จะมีความลึกซึ้งมากขึ้นในป.5-6 เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับดาวฤกษ์ กาแล็กซี และจักรวาล การเคลื่อนที่ของโลกรอบดวงอาทิตย์และของดวงจันทร์รอบโลก รวมถึงการเกิดกลางวันกลางคืนและฤดูกาลต่างๆ การสังเกตท้องฟ้าและการใช้เครื่องมือทางดาราศาสตร์ก็จะเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ
เทคโนโลยีป.5-6 จะเน้นการออกแบบและการสร้างสรรค์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการออกแบบทางวิศวกรรม การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ และการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีสมัยใหม่ การเขียนโปรแกรมเบื้องต้นและการควบคุมหุ่นยนต์ง่ายๆ ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร
การประเมินผลการเรียนรู้ในวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามแนวทาง สสวท. จะเน้นการประเมินตามสภาพจริง การใช้แฟ้มผลงาน และการประเมินจากการปฏิบัติ มากกว่าการสอบข้อเขียนเพียงอย่างเดียว ครูจะสังเกตพัฒนาการของเด็กในด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะการคิดวิเคราะห์ และทักษะการแก้ปัญหา
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้จะเน้นการทำงานเป็นกลุ่ม การแบ่งปันความคิดเห็น และการนำเสนอผลงาน เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน เด็กจะได้เรียนรู้การตั้งคำถาม การสร้างสมมติฐาน การออกแบบการทดลอง การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ผล และการสรุปผลการทดลอง
สื่อการเรียนการสอนที่ สสวท. แนะนำจะหลากหลายและเหมาะสมกับวัยของเด็ก ตั้งแต่แบบจำลอง ชุดทดลอง โปสเตอร์ วีดิโอ และสื่อดิจิทัล สื่อเหล่านี้จะช่วยให้เด็กเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นและสร้างความสนใจในการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนการสอนก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทบาทของผู้ปกครองในการสนับสนุนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความสำคัญมาก ผู้ปกครองควรสนับสนุนให้เด็กสำรวจและทดลองในชีวิตประจำวัน ตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ รอบตัว และหาคำตอบร่วมกัน การพาเด็กไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ สวนสัตว์ สวนพฤกษศาสตร์ หรือสถานที่เรียนรู้ทางธรรมชาติ จะช่วยขยายประสบการณ์การเรียนรู้
การเตรียมความพร้อมของครูก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง ครูจะต้องเข้าใจหลักสูตรและแนวทางการจัดการเรียนรู้ของ สสวท. อย่างถี่ถ้วน รวมถึงการพัฒนาทักษะในการใช้สื่อและเครื่องมือการเรียนการสอน การเข้าร่วมอบรมและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ครูสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
ความปลอดภัยในการทำกิจกรรมวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ครูและนักเรียนต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด การใช้อุปกรณ์ป้องกัน การจัดการกับสารเคมี และการดูแลความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง
การเชื่อมโยงเนื้อหาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับชีวิتจริงและอาชีพในอนาคตจะช่วยให้เด็กเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการเรียนรู้ การแนะแนวอาชีพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพบปะกับนักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์ จะเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กสนใจศึกษาต่อในสาขาเหล่านี้
การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานจะช่วยให้เด็กได้ประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้เรียนมาในการแก้ปัญหาจริง การทำโครงงานวิทยาศาสตร์จะพัฒนาทักษะการวิจัย การคิดเชิงระบบ และการทำงานเป็นทีม เด็กจะได้เรียนรู้การวางแผน การดำเนินงาน และการประเมินผล
การใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนวิทยาศาสตร์จะช่วยเตรียมความพร้อมให้เด็กในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น คำศัพท์วิทยาศาสตร์ที่เป็นภาษาอังกฤษจะช่วยให้เด็กสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ที่หลากหลายมากขึ้น และเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาในยุคโลกาภิวัตน์
การประเมินและพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ สสวท. มีการติดตามผลและปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยและเหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี การรับฟังความคิดเห็นจากครู นักเรียน และผู้ปกครองจะช่วยให้การพัฒนาหลักสูตรมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุปแล้วหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ สสวท. สำหรับระดับประถมศึกษาเป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กไทย การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การใช้กิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจ และการเชื่อมโยงกับชีวิตจริง จะช่วยพัฒนาเด็กให้เป็นผู้ที่มีความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต
การดำเนินการตามหลักสูตรนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งครู นักเรียน ผู้ปกครอง และสังคม เพื่อให้การศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศไทยมีคุณภาพและสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก การลงทุนในการศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างไฟล์เอกสาร











