วันจันทร์, สิงหาคม 18, 2025
spot_img
หน้าแรกข่าวการศึกษาดาวน์โหลดฟรี แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล ลูกเสือสำรอง

ดาวน์โหลดฟรี แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล ลูกเสือสำรอง


สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก ครูต้นไผ่ดอทคอม ทุกท่านครับ วันนี้พบกับ ครูต้นไผ่ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล ลูกเสือสำรอง ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการจัดทำแบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล ลูกเสือสำรอง ให้กับลูกเสือสำรอง ได้ครับ แอดมิน ขอแนะนำไฟล์ แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล ลูกเสือสำรอง ตามรายละเอียดดังนี้ ครับ

แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล ลูกเสือสำรอง

แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล ลูกเสือสำรอง

การเดินทางไกลของลูกเสือสำรอง บันทึกประสบการณ์สุดพิเศษที่จะคงอยู่ในใจตลอดไป

การเดินทางไกลเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญที่สุดสำหรับลูกเสือสำรองในประเทศไทย เป็นการผจญภัยที่ทดสอบความอดทน ความสามัคคี และทักษะการอยู่รอดในป่าใหญ่ ในฐานะที่เราได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเดินทางไกลครั้งนี้ เราจึงอยากจะแบ่งปันประสบการณ์อันทรงคุณค่าที่ได้รับจากการผจญภัยครั้งนี้ให้กับเพื่อนๆ ลูกเสือและผู้สนใจทั่วไปได้รับทราบ

การเดินทางไกลครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นด้วยการเตรียมตัวอย่างละเอียดถี่ถ้วนตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อนหน้า ผู้นำลูกเสือได้จัดการประชุมเพื่อวางแผนเส้นทางการเดินทาง กำหนดจุดหมายปลายทาง และแจกจ่ายหน้าที่ความรับผิดชอบให้กับสมาชิกแต่ละคน การเตรียมตัวนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การเดินทางไกลประสบความสำเร็จและปลอดภัยสำหรับทุกคน

ในช่วงการเตรียมตัว เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้เข็มทิศ การอ่านแผนที่ การคาดการณ์สภาพอากาศ และการเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางไกล การเรียนรู้เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทฤษฎีที่อ่านจากหนังสือ แต่เป็นการฝึกปฏิบัติจริงในสภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกับการเดินทางจริง ผู้นำได้จัดให้มีการฝึกเดินป่าในช่วงเย็นของวันสุดสัปดาห์ เพื่อให้เราคุ้นเคยกับการใช้อุปกรณ์และสร้างความมั่นใจในตนเอง

วันแรกของการเดินทางไกล เราออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่เมื่อดวงอาทิตย์เพิ่งส่องแสงแรกแห่งวัน บรรยากาศเป็นไปด้วยความตื่นเต้นผสมผสานกับความกังวลเล็กน้อย ทุกคนแบกเป้เดินทางที่บรรจุอุปกరณ์จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเต็นท์ ถุงนอน อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยาสามัญประจำบ้าน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดในป่าเป็นเวลาสองคืนสามวัน

เส้นทางการเดินทางครั้งนี้เราเลือกไว้ในเขตป่าอนุรักษ์ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีลำธารน้ำใสไหลผ่าน และมีจุดชมวิวที่สวยงามหลายแห่ง เส้นทางมีระยะทางรวมประมาณ 25 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นสามวัน วันละประมาณ 8-9 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่เหมาะสมสำหรับลูกเสือสำรองในช่วงอายุ 11-14 ปี

ช่วงแรกของการเดินทาง ทุกคนยังมีพลังและความกระตือรือร้นสูง การเดินผ่านป่าไผ่ที่แสงแดดส่องผ่านใบไผ่สีเขียวสร้างบรรยากาศที่สงบและร่มเย็น เสียงใสของนกป่าและเสียงลมพัดผ่านใบไม้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและหลงใหลในความงามของธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปและระยะทางที่เดินมากขึ้น ความเหนื่อยล้าก็เริ่มเข้ามาเยือน

หนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของการเดินทางไกลคือการจัดการกับความเหนื่อยล้าทั้งทางกายและใจ เมื่อเท้าเริ่มเมื่อย หลังเริ่มปวดจากน้ำหนักของเป้เดินทาง และเส้นทางที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ความคิดที่อยากจะยอมแพ้ก็เริ่มเข้ามาในใจ แต่นี่คือจุดที่การฝึกฝนจิตใจและการสนับสนุนจากเพื่อนๆ เข้ามามีบทบาทสำคัญ

ผู้นำลูกเสือสอนเราให้รู้จักการแบ่งเส้นทางออกเป็นช่วงเล็กๆ แทนที่จะมองภาพรวมทั้งหมดที่อาจทำให้ท้อใจ การตั้งเป้าหมายระยะสั้น เช่น เดินไปถึงต้นไม้ใหญ่ข้างหน้า หรือเดินไปถึงโค้งทางถัดไป ช่วยให้เรารู้สึกว่าสามารถบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น และเมื่อบรรลุเป้าหมายเล็กๆ เหล่านั้น ความมั่นใจและกำลังใจก็จะกลับมา

การพักผ่อนอย่างเหมาะสมเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่เราได้เรียนรู้ ไม่ใช่การหยุดพักทุกครั้งที่รู้สึกเหนื่อย เพราะจะทำให้เสียเวลาและขาดความต่อเนื่องในการเดิน แต่เป็นการวางแผนจุดพักที่เหมาะสม เช่น บริเวณที่มีน้ำสะอาดสำหรับเติม หรือบริเวณที่มีร่มเงาและลมพัดเย็นสบาย ระหว่างการพัก เราใช้เวลาตรวจสอบเท้าและรองเท้า ดื่มน้ำเติมพลังงาน และทานอาหารว่างเล็กน้อยเพื่อเติมน้ำตาลในเลือด

ตอนบ่ายของวันแรก เราได้เจอกับความท้าทายที่ไม่คาดคิด ฝนเริ่มตกลงมาเป็นระยะๆ แม้ว่าจะเตรียมเสื้อกันฝนมา แต่การเดินบนเส้นทางที่เปียกลื่นและโคลนเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายอย่างแท้จริง รองเท้าเป็นโคลน การทรงตุลยภาพทำได้ยากขึ้น และอุปกรณ์บางอย่างเปียกชื้น นี่คือช่วงเวลาที่การทำงานเป็นทีมและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันแสดงออกมาอย่างชัดเจน

สมาชิกที่แข็งแรงกว่าช่วยแบกของสำหรับเพื่อนที่เริ่มอ่อนล้า ผู้ที่เดินนำช่วยหาเส้นทางที่ปลอดภัยและชี้แจงอุปสรรคให้คนที่ตามหลัง ขณะที่ผู้ที่เดินท้ายคอยดูแลให้แน่ใจว่าไม่มีใครหลงทาง การเอาใจใส่ดูแลซึ่งกันและกันในสถานการณ์ที่ท้าทายนี้สร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม

เมื่อถึงจุดตั้งแคมป์ในตอนเย็นของวันแรก ทุกคนรู้สึกเหนื่อยล้าแต่ก็เต็มไปด้วยความภูมิใจที่สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ การตั้งค่ายครั้งนี้เป็นการทดสอบทักษะที่เรียนรู้มาจากการฝึกซ้อม การเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม การตั้งเต็นท์ให้แข็งแรงและป้องกันฝน และการจัดวางอุปกรณ์ให้เป็นระเบียบและเข้าถึงได้ง่าย

การทำอาหารในป่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าจดจำ เราต้องใช้เตาแก๊สพกพาและอุปกรณ์การครัวที่จำกัด มากไปกว่านั้น เราต้องคำนึงถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติและไม่ทิ้งขยะหรือสารปนเปื้อนในป่า เมนูอาหารของเราประกอบด้วยอาหารแห้งที่เก็บได้นาน มีคุณค่าทางอาหารสูง และปรุงได้ง่าย เช่น ข้าวกล่อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผลไม้แห้ง และถั่วอบแห้ง

การกินอาหารร่วมกันในบรรยากาศของป่าใหญ่ ใต้แสงดาวเต็มฟ้า และท่ามกลางเสียงแสงธรรมชาติ สร้างความรู้สึกผูกพันและอบอุ่นใจที่ไม่เคยพบในชีวิตประจำวัน การแบ่งปันอาหาร การเล่าเรื่องราว และการหัวเราะร่วนกันท่ามกลางแสงไฟฉาย เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะจดจำไปตลอดชีวิต

คืนแรกในป่าเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการนอนในบ้าน เสียงธรรมชาติในยามค่ำคืน ไม่ว่าจะเป็นเสียงแสงของแมลงป่า เสียงนกฮูก หรือเสียงใบไม้ไหวในลม ในตอนแรกอาจทำให้รู้สึกกลัวหรือตื่นตระหนก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เสียงเหล่านี้กลับกลายเป็นเพลงกล่อมที่ช่วยให้หลับสบาย

อย่างไรก็ตาม การนอนบนพื้นดินที่ไม่เรียบและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง ทำให้หลายคนนอนไม่สนิท การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่ได้จากการเดินทางไกล มันสอนให้เรารู้จักความยืดหยุ่นและการปรับตัวเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

วันที่สองของการเดินทางเริ่มต้นด้วยการตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงแรกของอรุณ การจัดเก็บค่ายให้เรียบร้อยและไม่ทิ้งร่องรอยในธรรมชาติเป็นหลักการสำคัญที่ลูกเสือต้องปฏิบัติตาม การพับเต็นท์ การจัดเก็บอุปกรณ์ และการทำความสะอาดบริเวณที่ใช้อาศัย แม้ว่าจะเป็นงานที่เหนื่อยและใช้เวลา แต่มันสร้างระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

เส้นทางในวันที่สองท้าทายมากกว่าวันแรก มีการเดินขึ้นเขาที่ชันและการลงเขาที่ต้องระมัดระวัง ทิวทัศน์ที่ได้เห็นจากจุดสูงทำให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินขึ้นเขาหายวับไปในทันที ภูเขาเรียงรายไปไกลสุดลูกหูลูกตา ป่าไผ่และป่าเต็งรังที่เขียวขจี และหมอกเบาๆ ที่ลอยอยู่เหนือหุบเขา สร้างภาพที่สวยงามราวกับภาพวาดที่วาดด้วยฝีมือของศิลปินชั้นเยี่ยม

ระหว่างการเดินลงเขา เราได้พบกับลำธารเล็กๆ ที่น้ำใสไหลเซาะผ่านหินและโขดหิน เป็นจุดพักที่เหมาะสำหรับการเติมน้ำและล้างหน้าเพื่อความสดชื่น น้ำเย็นเฉียบจากธรรมชาติช่วยลดความร้อนและเพิ่มพลังในการเดินทางต่อไป การได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดทำให้เรารู้สึกถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ไว้สำหรับคนรุ่นหลัง

ช่วงบ่ายของวันที่สอง เราได้เรียนรู้เทคนิคการอ่านสัญญาณธรรมชาติเพื่อการนำทาง การสังเกตการเจริญเติบโตของมอสบนต้นไม้ที่บอกทิศเหนือ การใช้ดวงอาทิตย์เป็นเข็มทิศธรรมชาติ และการสังเกตการไหลของลำธารที่ช่วยในการระบุทิศทาง ความรู้เหล่านี้ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในการเดินป่า แต่ยังสร้างความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างเรากับธรรมชาติ

การตั้งค่ายในคืนที่สอง เราเลือกบริเวณที่สูงกว่าและมีการระบายอากาศดีกว่าคืนแรก ประสบการณ์จากคืนก่อนทำให้เราปรับปรุงวิธีการตั้งเต็นท์และการจัดวางอุปกรณ์ให้สะดวกสบายมากขึ้น การเรียนรู้จากประสบการณ์และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเป็นหนึ่งในคุณค่าที่สำคัญของการเดินทางไกล

คืนที่สองเป็นคืนที่พิเศษเพราะฟ้าแจ่มใสไร้เมฆ เราสามารถเห็นดาวเต็มฟ้าได้อย่างชัดเจน การได้นอนมองดาวและกิจกรรมสังเกตการณ์ดาวฤกษ์ กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ผู้นำลูกเสือแนะนำให้เรารู้จักกลุ่มดาวต่างๆ เช่น กลุ่มดาวจระเข้ กลุ่มดาวเกียงพลับ และดาวเหนือ ความงามของธรรมชาติในยามค่ำคืนทำให้เราตระหนักว่าเราเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่

วันสุดท้ายของการเดินทางไกล ทุกคนตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกผสมผสานระหว่างความเศร้าที่การผจญภัยกำลังจะจบลง กับความตื่นเต้นที่จะได้กลับไปพบเจอครอบครัว การเก็บค่ายครั้งสุดท้ายทำด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าเราได้พัฒนาทักษะและประสบการณ์มากมายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน

เส้นทางในวันสุดท้ายนำเราผ่านป่าที่หลากหลาย ตั้งแต่ป่าเต็งรังที่โปร่งสู่ป่าชื้นที่ร่มรื่น การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพของป่าไทย การสังเกตนกป่า แมลงป่า และรอยเท้าสัตว์ป่า เพิ่มความน่าสนใจและความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับการเดินทาง

หนึ่งในช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุดคือการได้เห็นนกเงือกป่าบินผ่านยอดไม้ เสียงปีกที่ฟาดฟื่นและขนาดใหญ่โตของมันทำให้ทุกคนหยุดเดินและจ้องมองด้วยความตื่นตาตื่นใจ ช่วงเวลาเหล่านี้เป็นเหมือนของขวัญจากธรรมชาติที่ทำให้การเดินทางไกลมีความหมายเป็นพิเศษ

ขณะที่เราเดินทางใกล้จุดหมายปลายทาง ความรู้สึกของความสำเร็จเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ การสามารถเดินทางผ่านป่าใหญ่ได้อย่างปลอดภัย การใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเองในธรรมชาติ และการทำงานร่วมกันเป็นทีม เป็นความสำเร็จที่ไม่สามารถวัดด้วยตัวเลขหรือคะแนนได้

เมื่อมาถึงจุดสิ้นสุดของการเดินทางไกล เราได้จัดกิจกรรม “การสะท้อนความคิด” ที่ทุกคนได้แบ่งปันประสบการณ์ ความรู้สึก และบทเรียนที่ได้รับจากการเดินทางครั้งนี้ การได้ฟังมุมมองที่แตกต่างจากเพื่อนๆ ทำให้เรารับรู้ได้ว่าแม้จะเดินทางมาด้วยกัน แต่แต่ละคนก็มีประสบการณ์และการเรียนรู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการเดินทางไกลครั้งนี้มีมากมายเกินกว่าที่จะสรุปได้ในเพียงไม่กี่ประโยค การอดทน การไม่ยอมแพ้เมื่อเผชิญกับอุปสรรค การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย การทำงานเป็นทีม การเอาใจใส่ดูแลเพื่อนฝูง การรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการเห็นคุณค่าของธรรมชาติ ล้วนเป็นบทเรียนชีวิตที่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดๆ

การเดินทางไกลยังสอนให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น การเผชิญกับความท้าทาย ความเหนื่อยล้า และความไม่สบาย ทำให้เราค้นพบความแข็งแกร่งภายในที่เราอาจไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ การทำสิ่งที่เราคิดว่าทำไม่ได้ สร้างความมั่นใจและความภูมิใจในตนเองที่จะติดตัวไปตลอดชีวิต

บันทึกผจญภัย การเดินทางไกลของลูกเสือสำรอง

บทความเกี่ยวกับ แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกลของลูกเสือสำรอง ซึ่งมีรายละเอียดังต่อไปนี้

ความสำคัญของการเดินทางไกลในกิจกรรมลูกเสือสำรอง

การเดินทางไกลเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้กับลูกเสือสำรอง นอกจากจะช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้การเอาตัวรอดในธรรมชาติแล้ว ยังส่งเสริมความสามัคคีและการทำงานเป็นทีม

การเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไกลของลูกเสือสำรอง

ก่อนการเดินทางไกล ลูกเสือสำรองต้องมีการเตรียมตัวทั้งด้านร่างกายและอุปกรณ์สำคัญ เช่น กระติกน้ำ อาหารแห้ง เสื้อกันฝน ไฟฉาย และรองเท้าที่เหมาะสม นอกจากนี้ ควรมีการฝึกซ้อมเดินทางไกลและเรียนรู้กฎระเบียบเพื่อความปลอดภัย

แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกลคืออะไร และทำไมจึงสำคัญ?

แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกลเป็นเอกสารที่ใช้บันทึกกิจกรรมที่ลูกเสือสำรองได้ทำระหว่างการเดินทางไกล ซึ่งช่วยให้เด็ก ๆ ได้ทบทวนประสบการณ์ของตนเอง และเป็นหลักฐานในการประเมินผลการเรียนรู้

วิธีการกรอกแบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล

แบบบันทึกกิจกรรมควรประกอบด้วยรายละเอียด เช่น

  • วันที่และสถานที่เดินทาง
  • เส้นทางและระยะทางที่เดิน
  • ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
  • ความรู้ที่ได้รับจากกิจกรรม
  • ความประทับใจและข้อเสนอแนะ

เทคนิคการเดินทางไกลสำหรับลูกเสือสำรอง

การเดินทางไกลที่มีประสิทธิภาพต้องใช้เทคนิค เช่น

  • การเดินเป็นกลุ่มและรักษาระยะห่างที่เหมาะสม
  • การใช้สัญญาณมือและเสียงในการสื่อสาร
  • การสังเกตสภาพแวดล้อมและอ่านแผนที่เบื้องต้น

ตัวอย่างแบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกลของลูกเสือสำรอง

ตัวอย่างแบบบันทึกอาจมีรูปแบบดังนี้:
📌 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2567
📌 สถานที่: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
📌 ระยะทาง: 3 กิโลเมตร
📌 สิ่งที่ได้เรียนรู้: การใช้เข็มทิศ การอ่านแผนที่ การช่วยเหลือเพื่อน

การใช้แบบบันทึกกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะลูกเสือสำรอง

แบบบันทึกไม่เพียงแต่ช่วยให้เด็ก ๆ ทบทวนประสบการณ์ แต่ยังสามารถใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะ เช่น การจดบันทึกอย่างเป็นระบบ การวิเคราะห์สิ่งที่พบเจอ และการพัฒนาทักษะการสื่อสาร

อุปสรรคที่อาจพบเจอในการเดินทางไกล และวิธีรับมือ

อุปสรรคที่พบบ่อยได้แก่
🚶‍♂️ ความเหนื่อยล้า → ควรหยุดพักเป็นระยะ
🌧️ สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย → เตรียมอุปกรณ์กันฝน
🔄 หลงทาง → ใช้แผนที่และเข็มทิศช่วยนำทาง

การนำเสนอแบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกลอย่างสร้างสรรค์

ลูกเสือสำรองสามารถนำเสนอแบบบันทึกของตนเองในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น

  • เขียนบันทึกเป็นเรื่องเล่า
  • วาดภาพประกอบกิจกรรมที่ทำ
  • นำเสนอผ่านวิดีโอหรือสไลด์โชว์

ตัวอย่างไฟล์เอกสาร แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล ลูกเสือสำรอง


แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล ลูกเสือสำรอง
แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล ลูกเสือสำรอง
แบบบันทึกกิจกรรมเดินทางไกล ลูกเสือสำรอง

เอกสารเป็นไฟล์ Word แก้ไขได้

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : ครูอัพเดตดอทคอม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

ข่าวยอดนิยม

ความคิดเห็นล่าสุด