วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_img
หน้าแรกดาวน์โหลดฟรีดาวน์โหลด คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬา วอลเลย์บอล T-Certificate โดยกรมพลศึกษา กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

ดาวน์โหลด คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬา วอลเลย์บอล T-Certificate โดยกรมพลศึกษา กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา


สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก ครูต้นไผ่ดอทคอม ทุกท่านครับ วันนี้พบกับ ครูต้นไผ่ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬา วอลเลย์บอล T-Certificate ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทาง ในการเรียนรู้ตามคู่มือผู้ฝึกสอนกีฬา วอลเลย์บอล T-Certificate ให้กับนักเรียน ตามบริบทของห้องเรียน ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬา วอลเลย์บอล T-Certificate ตามรายละเอียดดังนี้ ครับ

ดาวน์โหลด คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬา วอลเลย์บอล T-Certificate โดยกรมพลศึกษา กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา


การได้รับใบรับรอง T-Certificate สำหรับผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอล เส้นทางสู่ความเป็นมืออาชีพ

การเป็นผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลที่ได้รับการรับรองในประเทศไทยถือเป็นเส้นทางอาชีพที่มีความท้าทายและน่าสนใจอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่มีความหลงใหลในกีฬาวอลเลย์บอลและต้องการพัฒนาตนเองให้เป็นมืออาชีพในการฝึกสอน การได้รับใบรับรอง T-Certificate จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ใบรับรองนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในการฝึกสอน แต่ยังเป็นหลักประกันที่แสดงถึงความรู้ความสามารถและมาตรฐานการฝึกสอนที่ได้รับการยอมรับในระดับชาติ

T-Certificate หรือ Training Certificate คือใบรับรองมาตรฐานสำหรับผู้ฝึกสอนกีฬาในประเทศไทยที่ออกโดยสมาคมกีฬาแต่ละประเภท โดยเฉพาะในกรณีของวอลเลย์บอลจะอยู่ภายใต้การกำกับของสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ใบรับรองนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรับประกันว่าผู้ที่ได้รับใบรับรองมีความรู้ความเข้าใจในเทคนิคการฝึกสอน กฎกติกา วิทยาศาสตร์การกีฬา และการจัดการทีมที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล

การได้รับใบรับรอง T-Certificate สำหรับผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลมีความสำคัญหลายประการ ประการแรกคือการเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาของนักกีฬา ผู้ปกครอง และหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการจ้างผู้ฝึกสอน เมื่อผู้ฝึกสอนมีใบรับรองที่ได้มาตรฐาน จะทำให้ผู้คนมั่นใจในความสามารถและความปลอดภัยในการฝึกสอน ประการที่สองคือการได้รับข้อมูลและความรู้ที่ทันสมัยและถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งจะช่วยให้การฝึกสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถพัฒนานักกีฬาได้อย่างเหมาะสม

ขั้นตอนการสมัครเรียนเพื่อรับใบรับรอง T-Certificate นั้นเริ่มต้นจากการติดต่อสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้จัดการอบรม ผู้สมัครจะต้องเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษา ประวัติการเล่นกีฬาหรือการฝึกสอน รูปถ่าย และใบรับรองแพทย์ที่แสดงให้เห็นว่าสามารถออกกำลังกายได้ การเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้ครบถ้วนและถูกต้องจะช่วยให้กระบวนการสมัครเป็นไปอย่างราบรื่น

หลังจากยื่นเอกสารสมัครแล้ว ผู้สมัครจะได้รับการแจ้งวันเวลาและสถานที่ในการเข้ารับการอบรม การอบรมโดยทั่วไปจะจัดขึ้นในรูปแบบของการบรรยายและปฏิบัติ โดยมีระยะเวลาประมาณ 3-5 วัน ขึ้นอยู่กับระดับของใบรับรอง ในระหว่างการอบรมผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการฝึกสอนขั้นพื้นฐาน กฎกติกาของกีฬาวอลเลย์บอล หลักการออกแบบโปรแกรมการฝึก การป้องกันการบาดเจ็บ และจิตวิทยาการกีฬา

เนื้อหาการอบรมจะครอบคลุมหัวข้อต่างๆ อย่างครอบคลุม ในส่วนของเทคนิคพื้นฐาน ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะพื้นฐานทั้ง 6 ทักษะของวอลเลย์บอล ได้แก่ การรับลูก การส่งลูก การตบ การบล็อก การเสิร์ฟ และการป้องกัน รวมถึงวิธีการสอนแต่ละทักษะให้มีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและการแก้ไข และการใช้อุปกรณ์ช่วยในการฝึกซ้อม

ในส่วนของกฎกติกา ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้กฎกติกาล่าสุดของการแข่งขันวอลเลย์บอลตามมาตรฐานสากล การตัดสินการแข่งขัน ระบบการให้คะแนน และการจัดการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการสอนเกี่ยวกับการใช้สัญญาณต่างๆ ในการสื่อสารกับผู้เล่นและเจ้าหน้าที่ในระหว่างการแข่งขัน ความรู้เหล่านี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ฝึกสอนที่จะต้องช่วยให้นักกีฬาเข้าใจและปฏิบัติตามกฎกติกาได้อย่างถูกต้อง

หลักการออกแบบโปรแกรมการฝึกเป็นอีกหัวข้อสำคัญที่จะได้เรียนรู้ในการอบรม ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการวางแผนการฝึกทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การแบ่งช่วงการฝึก (Periodization) การประเมินความสามารถของนักกีฬา และการปรับแต่งโปรแกรมให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ความรู้เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ฝึกสอนสามารถพัฒนานักกีฬาได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

การป้องกันการบาดเจ็บเป็นความรู้ที่สำคัญมากสำหรับผู้ฝึกสอนทุกคน ในการอบรมจะมีการสอนเกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์เบื้องต้น สาเหตุของการบาดเจ็บที่พบบ่อยในวอลเลย์บอล วิธีการป้องกัน และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ผู้ฝึกสอนที่มีความรู้ในด้านนี้จะสามารถดูแลความปลอดภัยของนักกีฬาได้ดีและลดความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บ

จิตวิทยาการกีฬาเป็นอีกด้านหนึ่งที่ผู้ฝึกสอนที่ดีควรมีความรู้ ในการอบรมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างแรงจูงใจให้กับนักกีฬา การจัดการความเครียดและความกดดัน การสร้างบรรยากาศทีมที่ดี และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ฝึกสอนสามารถพัฒนาไม่เพียงแต่ทักษะทางกีฬาของนักกีฬา แต่ยังช่วยให้นักกีฬามีจิตใจที่เข้มแข็งและพร้อมสำหรับการแข่งขัน

หลังจากการอบรมเสร็จสิ้น ผู้เข้าอบรมจะต้องเข้ารับการสอบเพื่อประเมินความรู้และทักษะที่ได้รับ การสอบโดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ การสอบข้อเขียนและการสอบภาคปฏิบัติ การสอบข้อเขียนจะเป็นการทดสอบความรู้เกี่ยวกับทฤษฎี เทคนิค กฎกติกา และหลักการต่างๆ ที่ได้เรียนรู้มา ส่วนการสอบภาคปฏิบัติจะเป็นการแสดงทักษะในการฝึกสอนจริง การสาธิตเทคนิค และการจัดการสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการฝึก

เกณฑ์การผ่านการสอบโดยทั่วไปจะกำหนดไว้ที่ประมาณ 70-80% ขึ้นอยู่กับระดับของใบรับรอง ผู้ที่สอบผ่านจะได้รับใบรับรอง T-Certificate ซึ่งมีอายุการใช้งาน โดยปกติจะมีอายุ 4-5 ปี และจะต้องทำการต่ออายุด้วยการเข้าอบรมเพิ่มเติมหรือการสะสมชั่วโมงการฝึกสอน สำหรับผู้ที่สอบไม่ผ่านจะได้รับโอกาสในการสอบใหม่ แต่อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและรอระยะเวลาหนึ่งก่อนจะสามารถสอบใหม่ได้

ใบรับรอง T-Certificate มีหลายระดับ โดยเริ่มจากระดับพื้นฐาน (Basic Level) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นในการฝึกสอนหรือผู้ที่มีประสบการณ์น้อย การอบรมในระดับนี้จะเน้นไปที่พื้นฐานการฝึกสอน เทคนิคเบื้องต้น และความปลอดภัย ระยะเวลาการอบรมประมาณ 3 วัน และเนื้อหาจะไม่ซับซ้อนมากนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกสอนในระดับเยาวชนหรือผู้เริ่มต้น

ระดับกลาง (Intermediate Level) เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการฝึกสอนมาระยะหนึ่งแล้วและต้องการพัฒนาทักษะให้สูงขึ้น เนื้อหาการอบรมจะมีความซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงการวิเคราะห์เกม การพัฒนายุทธวิธี และการจัดการทีมระดับการแข่งขัน ระยะเวลาการอบรมประมาณ 4-5 วัน และผู้เข้าอบรมจะต้องมีประสบการณ์หรือใบรับรองระดับพื้นฐานมาก่อน

ระดับสูง (Advanced Level) หรือระดับผู้เชี่ยวชาญเป็นระดับสูงสุดที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นผู้ฝึกสอนในระดับมืออาชีพ ทีมชาติ หรือต้องการเป็นอาจารย์ผู้สอนในการอบรมผู้ฝึกสอน เนื้อหาจะครอบคลุมทุกด้านอย่างลึกซึ้ง รวมถึงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การกีฬา การใช้เทคโนโลยีในการฝึก และการพัฒนาระบบการแข่งขัน ระยะเวลาการอบรมอาจนานถึง 1 สัปดาห์ และมีข้อกำหนดด้านคุณวุฒิและประสบการณ์ที่เข้มงวด

ค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรมจะแตกต่างกันไปตามระดับของใบรับรอง สถานที่จัดอบรม และหน่วยงานที่จัด โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายจะรวมถึงค่าลงทะเบียน ค่าเอกสาร ค่าอาหารในระหว่างการอบรม และค่าใบรับรอง สำหรับการอบรมระดับพื้นฐานค่าใช้จ่ายอาจอยู่ในช่วง 3,000-5,000 บาท ระดับกลางประมาณ 5,000-8,000 บาท และระดับสูงอาจสูงถึง 10,000-15,000 บาท ผู้ที่สนใจควรสอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและดูว่ามีการลดหรือยกเว้นค่าใช้จ่ายสำหรับกลุ่มใดบ้าง เช่น ครู อาจารย์ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ

การเลือกสถานที่อบรมและหน่วยงานจัดอบรมเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้สมัครควรพิจารณา ควรเลือกหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย มีอาจารย์ผู้สอนที่มีคุณภาพและประสบการณ์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอ และมีการจัดการอบรมที่เป็นระบบ ข้อมูลเหล่านี้สามารถหาได้จากเว็บไซต์ของสมาคม การสอบถามจากผู้ที่เคยเข้าอบรม หรือการติดต่อสอบถามโดยตรง

การเตรียมตัวก่อนเข้าอบรมมีความสำคัญไม่น้อย ผู้เข้าอบรมควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกีฬาวอลเลย์บอล กฎกติกาพื้นฐาน และเทคนิคต่างๆ การมีพื้นฐานความรู้จะช่วยให้เข้าใจเนื้อหาการอบรมได้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรเตรียมสมุดและปากกาสำหรับจดบันทึก เสื้อผ้าที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย รองเท้ากีฬา และอุปกรณ์ส่วนตัวที่จำเป็น

ประโยชน์ของการมีใบรับรอง T-Certificate นั้นมีมากมาย นอกจากจะเป็นการรับประกันความรู้ความสามารถแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสในการทำงานที่หลากหลาย ผู้ที่มีใบรับรองสามารถสมัครเป็นผู้ฝึกสอนในสโรงเรียน สโมสรกีฬา ศูนย์กีฬา หรือเป็นผู้ฝึกสอนอิสระ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการเข้าร่วมงานและกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาวอลเลย์บอลในระดับชาติและนานาชาติ

การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องหลังจากได้รับใบรับรองเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ฝึกสอนที่ดี การเข้าร่วมสัมมนา การอบรมเพิ่มเติม การศึกษาวิจัยใหม่ๆ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ฝึกสอนคนอื่นๆ จะช่วยให้ทักษะและความรู้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การกีฬามีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ผู้ฝึกสอนที่ดีจึงต้องเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

การสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ในแวดวงกีฬาเป็นอีกหนึ่งประโยชน์ที่ได้จากการเข้าอบรม การได้รู้จักกับผู้ฝึกสอนคนอื่นๆ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีจะเป็นประโยชน์ในระยะยาว อาจนำไปสู่โอกาสในการทำงานร่วมกัน การแนะนำงาน หรือการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในอนาคต

สำหรับผู้ที่สนใจในการพัฒนาอาชีพด้านการฝึกสอนในระยะยาว การมี T-Certificate เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ แต่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น การได้รับการรับรองจากองค์กรนานาชาติ

คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬา วอลเลย์บอล T-Certificate

คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate เล่มนี้กรมพลศึกษาโดยสถาบันพัฒนาบุคลากรการพลศึกษาและการกีฬา จัดทำ ขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการฝึกสอน
กีฬาวอลเลย์บอลให้มีความทันสมัย มีมาตรฐานสูงขึ้น สอดคล้องกับการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลในปัจจุบัน และมอบให้แก่ผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล ระดับ T-Certificate
ผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอลทั่วไปและผู้สนใจได้ใช้เป็นคู่มือในการฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอลการดำ เนินการได้รับความร่วมมือจากสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาวอลเลย์บอลมาเป็นวิทยากรและร่วมจัดทำต้นฉบับ
กรมพลศึกษาขอขอบคุณสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยและผู้เชี่ยวชาญทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดทำคู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate เล่มนี้จนสำ เร็จลุล่วงเป็นอย่างดีและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอลและผู้ที่สนใจทั่วไปได้ศึกษา ค้นคว้า และนำ ไปใช้ในการพัฒนาการฝึกสอน ฝึกซ้อม และการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลให้มีมาตรฐานสูงขึ้น สนองนโยบายและแผนพัฒนาการกีฬาของชาติต่อไป

หลักการและเหตุผล
ในปัจจุบันโลกมีความเจริญก้าวหน้า ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีการพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้งในทำนองเดียวกันกับกีฬาวอลเลย์บอลสมัยใหม่ ไม่ใช่เป็นการแข่งขันด้านเทคนิคแต่เป็นการแข่งขันด้านการบริหารจัดการวิทยาศาสตร์การกีฬาได้อย่างถูกต้อง ถูกวิธีเพื่อพัฒนาตนเองจากพื้นฐานสู่ความเป็นเลิศและอาชีพต่อไป
ฉะนั้น ผู้ฝึกสอนที่สอนกีฬาขั้นพื้นฐานต้องมีความรู้ความเข้าใจทุกๆ ด้าน เพื่อพัฒนานักกีฬาให้ก้าวหน้าไปสู่สากล หลักสูตร T-Certificate ประกอบด้วยเนื้อหาต่างๆ จากหลักสูตรผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลนานาชาติระดับ 1 ซึ่งเป็นหลักสูตรของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติสถาบันพัฒนาบุคลากรการพลศึกษาและการกีฬา กรมพลศึกษา จึงได้จัดการอบรมผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate เพื่อสอดคล้องกับแผนพัฒนากีฬาชาติและความนิยมกีฬาวอลเลย์บอลมากขึ้นทุกวัน
วัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล ให้มีความรู้ความสามารถ ฝึกสอนนักกีฬาในระดับพื้นฐานให้ถูกต้อง
2. เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับผู้ฝึกสอนในการเรียนหลักสูตร CoachescourseLevel1ของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ
3. เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอลให้มีทัศนคติที่ดีและให้โอกาสผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมวอลเลย์บอล
โครงสร้างเนื้อหาหลักสูตร
การฝึกอบรมหลักสูตรผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอลขั้นพื้นฐาน (T-Certificate) มีการเรียนการสอนภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติการฝึกอบรมหลักสูตรผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอลขั้นพื้นฐาน นับเป็นความรับผิดชอบของสถาบันพัฒนาบุคลากรการพลศึกษาและการกีฬา กรมพลศึกษา และสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะด้านผู้ฝึกสอนที่ต้องทำทีมให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน ดังนั้น ผู้ฝึกสอนจึงต้องศึกษาหาความรู้ความเข้าใจตามหลักสูตรการฝึกอบรม ซึ่งประกอบด้วย
– ประวัติความเป็นมาของกีฬาวอลเลย์บอล
– หลักการเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล
– การเสริมสร้างสมรรถภาพที่เกี่ยวกับกีฬาวอลเลย์บอล

  • การฝึกซ้อมด้านร่างกายสำหรับนักกีฬาวอลเลย์บอล
    • วิทยาศาสตร์การกีฬาและเทคโนโลยีทางการกีฬากับการพัฒนานักกีฬาวอลเลย์บอล
    • การปฐมพยาบาลการบาดเจ็บจากการกีฬา
    • การเสิร์ฟ
    • การเล่นลูกสองมือบนหรือการเซต
    • การตบ
    • การสกัดกั้น
    • กติกาที่ควรทราบ
    • ตัวรับอิสระ
    • มินิวอลเลย์บอล
    • การเล่นทีม-แข่งขัน
    • การทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ

ระยะเวลาในการฝึกอบรม
ใช้เวลาในการฝึกอบรม จำนวน 7 วัน รวม 44 ชั่วโมง
– ภาคทฤษฎี12 ชั่วโมง
– ภาคปฏิบัติ32 ชั่วโมง
คุณสมบัติและบทบาทหน้าที่ของวิทยากร และผู้ช่วยวิทยากร
– ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรวิทยากรหรือสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลให้การรับรอง
คุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม
1. ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
2. ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนทีมใดทีมหนึ่ง
3. วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลาย

วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการฝึกอบรม
– ยิมเนเซียม มีสนามวอลเลย์บอลพร้อมเสา นวมหุ้มเสา ตาข่าย เสาอากาศ
– ลูกวอลเลย์บอล จำนวน 40 ลูก พร้อมตะกร้าใส่ลูกบอล
– ห้องสำหรับใช้อบรมภาคทฤษฎี
– โทรทัศน์
– เครื่องเล่น Video/VCD
– เครื่องฉาย Overhead/LCD/Profector, Monitor
การประเมินผล
– มีเวลาในการฝึกอบรม อย่างน้อย 80%
– ภาคทฤษฎีสอบข้อเขียน ผ่าน 60%
– ภาคปฏิบัติผ่าน 60 %

ตัวอย่างไฟล์เอกสาร


คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬา วอลเลย์บอล T-Certificate
คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬา วอลเลย์บอล T-Certificate

เอกสารเป็นไฟล์ PDF

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : กรมพลศึกษา กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

ข่าวยอดนิยม

ความคิดเห็นล่าสุด