วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_img
หน้าแรกสำหรับครูเผยแพร่ รายการวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิด โดย คุณครูอัจฉรา  เพ็งทา

เผยแพร่ รายการวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิด โดย คุณครูอัจฉรา  เพ็งทา


สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก ครูต้นไผ่ดอทคอม ทุกท่านครับ วันนี้พบกับ ครูต้นไผ่ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ รายงานการวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิด ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการจัดทำรายงานการวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิด ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ รายงานการวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิด ตามรายละเอียดดังนี้ ครับ

เผยแพร่ รายงานการวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิด โดย คุณครูอัจฉรา  เพ็งทา

การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 ด้วยชุดฝึกทักษะแบบแผนผังความคิด

การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ต้องการให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์และสามารถสรุปสาระสำคัญจากข้อมูลที่ได้รับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะการเขียนย่อความจึงเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่นักเรียนต้องพัฒนาตั้งแต่ระดับประถมศึกษา เพื่อให้สามารถประมวลความรู้และถ่ายทอดข้อมูลได้อย่างชัดเจนและกระชับ

วิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการเขียนย่อความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิดเป็นเครื่องมือหลักในการพัฒนา การวิจัยนี้เกิดขึ้นจากการสังเกตปัญหาที่พบในการจัดการเรียนการสอนที่นักเรียนส่วนใหญ่ยังขาดความสามารถในการสรุปใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน และไม่สามารถเขียนย่อความได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ปัญหาที่พบในการเรียนการสอนการเขียนย่อความในชั้นเรียนมีหลายประการ นักเรียนส่วนใหญ่มักจะคัดลอกประโยคจากต้นฉบับมาใส่ในการเขียนย่อความโดยไม่ได้ประมวลความคิดเป็นของตนเอง บางคนเขียนย่อความยาวเกินไปจนกลายเป็นการเล่าเรื่องใหม่แทนที่จะเป็นการสรุปใจความสำคัญ และบางส่วนเขียนสั้นเกินไปจนไม่ครอบคลุมใจความสำคัญที่ควรมี นอกจากนี้ยังพบว่านักเรียนขาดความเข้าใจในหลักการและขั้นตอนการเขียนย่อความที่ถูกต้อง

การใช้แผนผังความคิดในการพัฒนาทักษะการเขียนย่อความเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอนที่ช่วยให้นักเรียนสามารถจัดระเบียบความคิดได้อย่างเป็นระบบ แผนผังความคิดช่วยให้นักเรียนเห็นความเชื่อมโยงระหว่างใจความหลักและใจความรอง สามารถแยกแยะข้อมูลที่สำคัญจากข้อมูลที่ไม่สำคัญได้ดีขึ้น และช่วยในการจดจำและทบทวนเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิดที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เริ่มต้นด้วยการสอนให้นักเรียนเข้าใจแนวคิดและหลักการของการเขียนย่อความ จากนั้นฝึกให้นักเรียนสร้างแผนผังความคิดจากเรื่องที่อ่าน โดยกำหนดให้นักเรียนหาใจความหลักและใจความรองของแต่ละย่อหน้า แล้วจึงนำข้อมูลจากแผนผังความคิดมาเขียนเป็นย่อความที่สมบูรณ์

กระบวนการพัฒนาชุดฝึกทักษะเริ่มต้นจากการศึกษาหลักสูตรและจุดประสงค์การเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากนั้นศึกษาทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเขียนย่อความและการใช้แผนผังความคิดในการเรียนการสอน นำข้อมูลที่ได้มาออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัยและความสามารถของผู้เรียน

ชุดฝึกทักษะที่พัฒนาขึ้นมีโครงสร้างชัดเจน แบ่งออกเป็น 5 หน่วยการเรียนรู้ หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียนย่อความ หน่วยที่ 2 การสร้างแผนผังความคิดจากเรื่องที่อ่าน หน่วยที่ 3 การหาใจความสำคัญจากแผนผังความคิด หน่วยที่ 4 การเขียนย่อความจากแผนผังความคิด และหน่วยที่ 5 การประเมินและปรับปรุงงานเขียนย่อความ แต่ละหน่วยมีระยะเวลาการเรียนรู้ 3-4 ชั่วโมง รวมทั้งหมด 18 ชั่วโมง

การดำเนินการวิจัยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน โดยศึกษากับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 30 คน ระยะเวลาในการดำเนินการวิจัย 6 สัปดาห์ เก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบทดสอบวัดความสามารถในการเขียนย่อความก่อนและหลังการใช้ชุดฝึกทักษะ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการใช้ชุดฝึกทักษะ

ผลการวิจัยพบว่านักเรียนที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิดมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสtatistically ที่ระดับ 0.05 คะแนนเฉลี่เรียนย่อความก่อนการทดลองอยู่ที่ 12.67 คะแนน จากคะแนนเต็ม 25 คะแนน หลังการทดลองคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 19.83 คะแนน คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 53.37

เมื่อวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ในแต่ละด้าน พบว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในทุกองค์ประกอบของการเขียนย่อความ ได้แก่ ความสามารถในการหาใจความหลักและใจความรอง ความสามารถในการเลือกข้อมูลที่สำคัญ ความสามารถในการใช้ภาษาของตนเองในการเขียนย่อความ และความสามารถในการเขียนย่อความให้มีความยาวเหมาะสม ผลการสังเกตพฤติกรรมแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้มากขึ้น มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างแข็งขัน

จากการวิเคราะห์คุณภาพของงานเขียนย่อความของนักเรียนก่อนและหลังการใช้ชุดฝึกทักษะ พบการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ก่อนการทดลอง งานเขียนของนักเรียนส่วนใหญ่เป็นการคัดลอกประโยคจากต้นฉบับ ใช้คำพูดเดิมจากเรื่องที่อ่านโดยไม่ได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นภาษาของตนเอง ความยาวของการเขียนย่อความไม่เหมาะสม บางเรื่องยาวเกินไป บางเรื่องสั้นเกินไป และไม่ครอบคลุมใจความสำคัญที่ควรมี

หลังการใช้ชุดฝึกทักษะ งานเขียนของนักเรียนมีคุณภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นักเรียนสามารถใช้ภาษาของตนเองในการเขียนย่อความได้ดีขึ้น มีการเลือกใช้คำศัพท์ที่เหมาะสม ความยาวของการเขียนย่อความเหมาะสมกับต้นฉบับ ครอบคลุมใจความสำคัญที่ควรมี และมีความต่อเนื่องสัมพันธ์กันของเนื้อหา การใช้แผนผังความคิดช่วยให้นักเรียนเห็นภาพรวมของเรื่องได้ชัดเจนขึ้น และสามารถจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลได้ดีกว่าเดิม

ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิดอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.23 จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน นักเรียนส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นว่าชุดฝึกทักษะมีประโยชน์ ช่วยให้เข้าใจวิธีการเขียนย่อความได้ดีขึ้น กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลายและน่าสนใจ การใช้แผนผังความคิดช่วยให้จดจำและเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

นักเรียนรายงานว่าการสร้างแผนผังความคิดเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ช่วยให้มองเห็นความเชื่อมโยงของข้อมูลได้ชัดเจน และสามารถนำไปใช้ในการเรียนวิชาอื่นๆ ได้ด้วย การใช้สีสันและรูปภาพประกอบในแผนผังความคิดทำให้การเรียนรู้มีความน่าสนใจมากขึ้น และช่วยในการจดจำข้อมูลได้ดีกว่าการจดบันทึกแบบเดิม

การวิจัยนี้ยังได้ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการใช้ชุดฝึกทักษะ พบว่าการได้รับคำแนะนำและข้อเสนอแนะจากครูอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยสำคัญ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริงหลายครั้งช่วยให้เกิดความชำนาญ การเลือกใช้เรื่องที่อ่านที่มีความเหมาะสมกับวัยและความสนใจของนักเรียนส่งผลให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อจำกัดของการวิจัยครั้งนี้ คือ การศึกษาเฉพาะในกลุ่มตัวอย่างเดียวและมีระยะเวลาจำกัด การติดตามผลระยะยาวยังไม่ได้ดำเนินการ ดังนั้นจึงไม่สามารถสรุปได้ว่านักเรียนจะสามารถรักษาทักษะที่ได้รับการพัฒนาไว้ได้นานเพียงใด นอกจากนี้การศึกษาผลกระทบต่อการเรียนรู้ในวิชาอื่นๆ ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ

ข้อเสนอแนะสำหรับการนำไปใช้ในการเรียนการสอน ครูควรได้รับการอบรมเกี่ยวกับการใช้แผนผังความคิดในการสอนอย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถชี้แนะและให้คำปรึกษานักเรียนได้อย่างเหมาะสม ควรมีการเตรียมสื่อการสอนและตัวอย่างงานที่หลากหลาย เพื่อให้นักเรียนได้เห็นแบบอย่างที่ดีและสามารถเลียนแบบได้ การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการแสดงความคิดเห็นและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเพื่อนมีความสำคัญ

การพัฒนาต่อยอดชุดฝึกทักษะให้เหมาะสมกับนักเรียนในระดับชั้นอื่นๆ เป็นสิ่งที่ควรดำเนินการ เพื่อให้นักเรียนทุกระดับได้รับประโยชน์จากการใช้แผนผังความคิดในการพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ การบูรณาการกับเทคโนโลยีการศึกษา เช่น การใช้โปรแกรมสร้างแผนผังความคิดบนคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต อาจช่วยเพิ่มความน่าสนใจและประสิทธิภาพในการเรียนรู้

ผลกระทบของการวิจัยนี้ต่อการพัฒนาการเรียนการสอนมีหลายด้าน ประการแรก แสดงให้เห็นว่าการใช้เครื่องมือช่วยในการจัดระเบียบความคิด เช่น แผนผังความคิด สามารถช่วยพัฒนาทักษะการเขียนของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประการที่สอง การพัฒนาชุดฝึกทักษะที่มีโครงสร้างชัดเจนและมีการฝึกฝนอย่างเป็นระบบช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะได้อย่างต่อเนื่อง

ประการที่สาม การวิจัยในชั้นเรียนเป็นแนวทางหนึ่งที่ครูสามารถใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนของตนเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณหรือทรัพยากรมาก แต่สามารถสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพได้ ประการที่สี่ การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความมีผลกระทบต่อการเรียนรู้ในวิชาอื่นๆ เพราะช่วยให้นักเรียนสามารถประมวลและสรุปข้อมูลได้ดีขึ้น

สรุปได้ว่าการใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิดเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะการเขียนย่อความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีความก้าวหน้าอย่างชัดเจนทั้งในด้านคะแนนสอบและคุณภาพของงานเขียน การใช้แผนผังความคิดช่วยให้นักเรียนสามารถจัดระเบียบความคิดและเลือกข้อมูลที่สำคัญได้ดีขึ้น ส่งผลให้การเขียนย่อความมีคุณภาพและตรงตามจุดประสงค์มากขึ้น

การศึกษาครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่องในอนาคต ทั้งในแง่ของการปรับปรุงชุดฝึกทักษะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การศึกษาผลกระทบระยะยาว การประยุกต์ใช้กับนักเรียนในวัยและระดับการศึกษาอื่นๆ และการบูรณาการกับเทคโนโลยีการศึกษาที่ทันสมัย การวิจัยนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21

ความสำเร็จของการวิจัยครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาการเรียนการสอนที่เกิดขึ้นจริงในชั้นเรียน แสดงให้เห็นว่าครูสามารถเป็นนักวิจัยที่ศึกษาและพัฒนาการเรียนการสอนของตนเองได้ เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเรียนรู้ และสามารถพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความโดยใช้แผนผังความคิด: กรณีศึกษานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ความสำคัญของการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ

การวิจัยในชั้นเรียนถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยครูให้สามารถวิเคราะห์ ปรับปรุง และพัฒนาการเรียนการสอนในชั้นเรียนได้ตรงตามความต้องการของนักเรียน ซึ่งในบริบทการสอนภาษาไทย การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความถือว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และการสรุปใจความสำคัญ การเขียนย่อความเป็นทักษะที่ต้องอาศัยการฝึกฝนเพื่อให้ผู้เรียนสามารถสกัดสาระสำคัญจากเนื้อหาที่อ่านและนำเสนอในรูปแบบย่อที่สั้น กระชับ และครบถ้วน

การวิจัยในชั้นเรียนที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการเขียนย่อความจะช่วยครูประเมินความสามารถของนักเรียนในด้านการคิดวิเคราะห์ ความเข้าใจในเนื้อหา รวมถึงช่วยสร้างกิจกรรมหรือเครื่องมือการสอนที่เหมาะสม เช่น การใช้แผนผังความคิดในการเขียนย่อความ ซึ่งวิธีการนี้ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ได้อย่างเป็นระบบและเกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น ทั้งนี้ ครูสามารถใช้ผลลัพธ์จากการวิจัยเพื่อนำไปปรับปรุงวิธีการสอนและพัฒนาทักษะการเขียนย่อความให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความด้วยชุดฝึกแบบแผนผังความคิด

การใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิดในการพัฒนาการเขียนย่อความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นแนวทางที่ช่วยเสริมสร้างการคิดอย่างเป็นระบบ โดยแผนผังความคิดเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยนักเรียนแยกแยะและจัดกลุ่มข้อมูลจากเนื้อหาที่อ่าน ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจสาระสำคัญของเรื่องนั้น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

ขั้นตอนในการใช้ชุดฝึกนี้เริ่มจากการให้นักเรียนอ่านเนื้อหา แล้วใช้แผนผังความคิดเพื่อช่วยจับประเด็นสำคัญ จากนั้นจึงนำไปสู่การเขียนย่อความ ครูจะต้องให้คำแนะนำและชี้แนะในขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนสามารถใช้แผนผังความคิดในการสรุปเนื้อหาอย่างถูกต้อง การฝึกฝนดังกล่าวช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะในการคัดเลือกข้อมูล การคิดอย่างมีเหตุผล และการนำเสนอสาระสำคัญอย่างสั้นและครบถ้วน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการเขียนและวิเคราะห์เนื้อหาในระดับสูงต่อไป

ผลการวิจัยและประเมินการพัฒนาทักษะการเขียนย่อความในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

จากการวิจัยในชั้นเรียนที่ใช้ชุดฝึกทักษะการเขียนย่อความแบบแผนผังความคิด นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีพัฒนาการด้านการเขียนย่อความอย่างเห็นได้ชัด นักเรียนสามารถวิเคราะห์เนื้อหา แยกแยะประเด็นสำคัญ และเขียนย่อความได้อย่างถูกต้องและครอบคลุมมากขึ้น โดยสังเกตได้ว่าการใช้แผนผังความคิดทำให้นักเรียนมีวิธีคิดเป็นระบบและมีความมั่นใจในการจับประเด็นสำคัญของเนื้อหามากขึ้น

ครูผู้วิจัยพบว่า นักเรียนสามารถลดข้อผิดพลาดในการเขียนย่อความ ทั้งในด้านการวางโครงสร้างของเนื้อหา การเลือกใช้ถ้อยคำที่กระชับ และการนำเสนอสาระสำคัญที่ตรงประเด็น จากผลการประเมินพบว่า นักเรียนที่ใช้ชุดฝึกทักษะแบบแผนผังความคิดสามารถพัฒนาทักษะการเขียนย่อความได้ดีกว่าก่อนการทดลอง ทั้งนี้ ครูสามารถนำผลการวิจัยไปปรับปรุงและประยุกต์ใช้ในการสอนกับนักเรียนระดับชั้นอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างไฟล์เอกสาร


รายงานการวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
รายงานการวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาทักษะการเขียนย่อความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

เอกสารเป็นไฟล์ Word แก้ไขได้

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : คุณครูอัจฉรา  เพ็งทา

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

ข่าวยอดนิยม

ความคิดเห็นล่าสุด