สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก ครูต้นไผ่ดอทคอม ทุกท่านครับ วันนี้พบกับ ครูต้นไผ่ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ หนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บทอาขยานภาษาไทย ช่วงชั้นที่ 1 – ช่วงชั้นที่ 4 ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทาง ในการเรียนรู้ตามหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บทอาขยานภาษาไทย ช่วงชั้นที่ 1 – ช่วงชั้นที่ 4 ให้กับนักเรียน ตามบริบทของห้องเรียน ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ หนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บทอาขยานภาษาไทย ช่วงชั้นที่ 1 – ช่วงชั้นที่ 4 ตามรายละเอียดดังนี้ ครับ
ดาวน์โหลด หนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บทอาขยานภาษาไทย ช่วงชั้นที่ 1 – ช่วงชั้นที่ 4 โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

คลังความรู้หนังสืออ่านเพิ่มเติมภาษาไทย พัฒนาทักษะบทอาขยานสำหรับนักเรียนทุกช่วงชั้น
การเรียนรู้ภาษาไทยในศตวรรษที่ 21 ต้องการแหล่งความรู้ที่หลากหลายและสอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียนในแต่ละช่วงวัย การเลือกหนังสืออ่านเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ครูผู้สอนและผู้ปกครองควรให้ความสนใจอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะการเขียนบทอาขยานซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการสื่อสารภาษาไทยในระดับสูง
หนังสืออ่านเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยในปัจจุบันมีความหลากหลายทั้งในด้านเนื้อหาและรูปแบบการนำเสนอ ตั้งแต่หนังสือเรื่องสั้นที่เหมาะสำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 1 ไปจนถึงวรรณกรรมคลาสสิกที่ท้าทายสำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 4 การเลือกหนังสือที่เหมาะสมจะช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะการอ่านอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ช่วงชั้นที่ 1 หรือระดับประถมศึกษาปีที่ 1-3 เป็นวัยที่เด็กเริ่มต้นเรียนรู้การอ่านและการเขียน หนังสืออ่านเพิ่มเติมในช่วงนี้ควรมีลักษณะที่เข้าใจง่าย มีภาพประกอบที่สวยงาม และเนื้อหาที่สนุกสนาน เรื่องราวควรใกล้ตัวเด็กและสามารถสร้างจินตนาการได้ หนังสือนิทานพื้นบ้านไทยที่ปรับปรุงให้เหมาะกับวัยจะเป็นตัวเลือกที่ดี เช่น นิทานไก่ป่าและไก่บ้าน นิทานกบใหญ่กบน้อย หรือนิทานสุนัขจิ้งจอกกับลิงที่นำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย มีคำศัพท์ที่เหมaะสมกับวัย และสามารถใช้เป็นแบบอย่างในการเขียนบทอาขยานเบื้องต้นได้
การเลือกหนังสือสำหรับช่วงชั้นที่ 1 ควรคำนึงถึงความสามารถในการอ่านที่ยังอยู่ในระดับเริ่มต้น ดังนั้นหนังสือควรมีตัวอักษรที่ชัดเจนและใหญ่พอสมควร ประโยคสั้นและใช้คำง่าย เนื้อหาควรเป็นเรื่องราวที่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบที่ชัดเจน มีตัวละครที่น่ารักและน่าสนใจ การใช้หนังสือเหล่านี้ในการสอนบทอาขยานจะช่วยให้เด็กเข้าใจโครงสร้างของการเล่าเรื่องและสามารถนำไปใช้ในการเขียนของตนเองได้
หนังสือชุดเรียนรู้คำศัพท์ภาษาไทยผ่านเรื่องราวสั้น ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับช่วงชั้นที่ 1 เนื่องจากจะช่วยเสริมสร้างพื้นฐานคำศัพท์ที่จำเป็นสำหรับการเขียนและการพูด การที่เด็กได้อ่านหนังสือที่มีคำศัพท์หลากหลายแต่เหมาะสมกับวัยจะช่วยให้พวกเขามีเครื่องมือในการแสดงออกทางภาษามากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเขียนบทอาขยานในระดับที่สูงขึ้น
ช่วงชั้นที่ 2 ครอบคลุมระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 เป็นช่วงที่เด็กเริ่มมีทักษะการอ่านที่แข็งแกร่งขึ้นและสามารถเข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อนมากขึ้น หนังสืออ่านเพิ่มเติมในช่วงนี้ควรเป็นเรื่องราวที่มีเนื้อหาที่ลึกซึ้งขึ้น มีตัวละครที่มีมิติมากกว่าหนึ่งด้าน และมีข้อคิดที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ วรรณกรรมเยาวชนไทยร่วมสมัยจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เช่น นวนิยายสำหรับเด็กที่เขียนโดยนักเขียนไทยที่มีชื่อเสียง
การเลือกหนังสือสำหรับช่วงชั้นที่ 2 ควรเน้นไปที่หนังสือที่มีโครงสร้างเรื่องที่ชัดเจน มีการพัฒนาตัวละครที่น่าสนใจ และมีธีมหรือแนวคิดหลักที่เด็กสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ได้ หนังสือประเภทนี้จะช่วยให้นักเรียนเรียนรู้การวิเคราะห์และการตีความ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการเขียนบทอาขยานที่มีคุณภาพ นักเรียนจะได้เรียนรู้การใช้ภาษาในการบรรยายอารมณ์และความรู้สึก การสร้างบรรยากาศในเรื่องราว และการใช้คำอุปมาอุปไมยเบื้องต้น
หนังสือชีวประวัติของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับช่วงชั้นที่ 2 เนื่องจากจะช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ทั้งความรู้ทางประวัติศาสตร์และทักษะทางภาษาไปพร้อม ๆ กัน การอ่านเรื่องราวชีวิตของบุคคลเหล่านี้จะช่วยให้เด็กเข้าใจโครงสร้างการเล่าเรื่องแบบเรียงลำดับเหตุการณ์ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการเขียนบทอาขยาน
เรื่องสั้นของนักเขียนไทยที่มีชื่อเสียงแต่ปรับให้เหมาะสมกับวัยเด็กก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เรื่องสั้นเหล่านี้มักจะมีการใช้ภาษาที่สวยงามและมีเทคนิคการเล่าเรื่องที่หลากหลาย ซึ่งจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้นักเรียนได้เรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ในการเขียนของตนเอง
ช่วงชั้นที่ 3 หรือระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นช่วงที่นักเรียนเริ่มต้องเผชิญกับวรรณกรรมที่มีความซับซ้อนมากขึ้น หนังสืออ่านเพิ่มเติมในช่วงนี้ควรเป็นผลงานที่มีคุณค่าทางวรรณกรรมและสามารถพัฒนาความคิดเชิงวิเคราะห์ได้ วรรณกรรมไทยคลาสสิกที่ดัดแปลงให้เหมาะสมกับวัย เช่น ลิลิตพระลอ อิเหนา หรือขุนช้างขุนแผน จะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะจะช่วยให้นักเรียนได้สัมผัสกับความงามของภาษาไทยในระดับสูงและเข้าใจวัฒนธรรมไทยผ่านวรรณกรรม
หนังสือในช่วงชั้นที่ 3 ควรมีเนื้อหาที่ท้าทายทางความคิด มีการใช้ภาษาที่หลากหลายและซับซ้อนขึ้น และมีธีมที่สามารถเชื่อมโยงกับประสบการณ์ชีวิตของวัยรุ่นได้ นวนิยายไทยร่วมสมัยที่มีคุณภาพ เช่น ผลงานของนักเขียนรางวัลซีไรต์ จะช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้เทคนิคการเขียนที่หลากหลาย การสร้างตัวละคร การพัฒนาเนื้อเรื่อง และการใช้ภาษาเพื่อสื่อสารอารมณ์และความรู้สึก
การเลือกหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับปัญหาสังคมร่วมสมัยก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับช่วงชั้นที่ 3 เนื่องจากจะช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาความคิดเชิงวิเคราะห์และความสามารถในการแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการเขียนบทอาขยานที่มีการโต้แย้งและการนำเสนอข้อมูล หนังสือประเภทสารคดีที่เขียนในรูปแบบที่น่าสนใจก็จะช่วยเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจในประเด็นต่าง ๆ
บทความและเรื่องสั้นในนิตยสารวรรณกรรมคุณภาพก็เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีสำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 เนื่องจากมีความหลากหลายในรูปแบบการเขียนและมีความทันสมัย การอ่านผลงานเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียนได้เห็นตัวอย่างการใช้ภาษาไทยในบริบทต่าง ๆ และสามารถนำเทคนิคเหล่านั้นมาใช้ในการเขียนบทอาขยานของตนเอง
ช่วงชั้นที่ 4 หรือระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นช่วงที่นักเรียนต้องเตรียมตัวสำหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา หนังสืออ่านเพิ่มเติมในช่วงนี้ควรเป็นผลงานที่มีความลึกซึ้งและซับซ้อน สามารถพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงนามธรรมและการวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ วรรณกรรมไทยคลาสสิกในรูปแบบต้นฉบับ เช่น รามเกียรติ์ อิเหนา หรือพระอภัยมณี จะช่วยให้นักเรียนได้สัมผัสกับความงดงามของภาษาไทยในระดับสูงสุดและเข้าใจรากเหง้าของวัฒนธรรมไทย
หนังสือในช่วงชั้นที่ 4 ควรเป็นผลงานที่มีคุณค่าทางปัญญาและสามารถกระตุ้นให้นักเรียนคิดอย่างเป็นระบบ นวนิยายไทยร่วมสมัยที่ได้รับการยกย่องในแวดวงวรรณกรรม บทความวิชาการที่เขียนในรูปแบบที่เข้าใจได้ และผลงานแปลจากภาษาต่างประเทศที่มีคุณภาพ จะช่วยขยายมุมมองและความเข้าใจในโลกของนักเรียน
การเลือกหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับปรัชญา จิตวิทยา หรือสังคมศาสตร์ที่เขียนในรูปแบบที่เข้าใจง่ายจะช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาความสามารถในการคิดเชิงนามธรรมและการวิเคราะห์เชิงลึก ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการเขียนบทอาขยานระดับสูง หนังสือประเภทนี้จะช่วยให้นักเรียนเรียนรู้การใช้ภาษาเพื่อแสดงความคิดที่ซับซ้อน การสร้างข้อโต้แย้ง และการนำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบ
วรรณกรรมโลกที่แปลเป็นภาษาไทยก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับช่วงชั้นที่ 4 เนื่องจากจะช่วยให้นักเรียนได้เห็นมุมมองที่หลากหลายและเข้าใจความเป็นสากลของประสบการณ์มนุษย์ การอ่านผลงานเหล่านี้จะช่วยพัฒนาความอ่อนไหวทางภาษาและความเข้าใจในวัฒนธรรมที่แตกต่าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเขียนบทอาขยานที่มีมิติความคิดที่กว้างไกล
การสอนบทอาขยานผ่านหนังสืออ่านเพิ่มเติมต้องการเทคนิคและวิธีการที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงชั้น สำหรับช่วงชั้นที่ 1 ครูควรเน้นการสอนโครงสร้างเบื้องต้นของการเล่าเรื่อง การใช้คำเชื่อมประโยค และการเรียงลำดับเหตุการณ์ การให้นักเรียนเล่าเรื่องที่อ่านมาใหม่ในคำพูดของตนเองจะช่วยพัฒนาความเข้าใจและความสามารถในการแสดงออก
กิจกรรมการวาดภาพประกอบเรื่องที่อ่านและเขียนคำบรรยายใต้ภาพเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้นักเรียนช่วงชั้นที่ 1 ได้ฝึกการเขียนบทอาขยานเบื้องต้น การให้นักเรียนเขียนจดหมายถึงตัวละครในเรื่องก็เป็นกิจกรรมที่สนุกและช่วยพัฒนาทักษะการเขียน การสร้างเรื่องราวใหม่โดยใช้ตัวละครจากหนังสือที่อ่านจะช่วยกระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
สำหรับช่วงชั้นที่ 2 การสอนบทอาขยานควรเน้นการพัฒนาทักษะการบรรยายและการใช้คำอุปมาอุปไมย การให้นักเรียนเขียนบรรยายฉากหนึ่งจากหนังสือที่อ่านโดยใช้คำศัพท์ที่หลากหลายจะช่วยพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษา การเปรียบเทียบตัวละครจากเรื่องต่าง ๆ ที่อ่านจะช่วยให้นักเรียนเรียนรู้การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบ
กิจกรรมการเขียนบทสัมภาษณ์ตัวละครในหนังสือจะช่วยให้นักเรียนได้ฝึกการใช้ภาษาในการสื่อสารและการสร้างบทสนทนา การให้นักเรียนเขียนต่อเรื่องหรือเขียนจุดจบใหม่ของเรื่องที่อ่านจะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และทักษะการเขียน การจัดกิจกรรมแสดงละครจากเรื่องที่อ่านและให้นักเรียนเขียนบทพากย์ก็เป็นวิธีการที่น่าสนใจ
การสอนบทอาขยานในช่วงชั้นที่ 3 ควรเน้นการพัฒนาทักษะการวิเคราะห์และการแสดงความคิดเห็น การให้นักเรียนเขียนวิจารณ์หนังสือจะช่วยให้พวกเขาได้ฝึกการแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล การเขียนเปรียบเทียบผลงานของนักเขียนคนต่าง ๆ จะช่วยพัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ
กิจกรรมการเขียนบทความเชิงวิเคราะห์เกี่ยวกับธีมหลักของเรื่องที่อ่านจะช่วยให้นักเรียนได้ฝึกการเขียนเชิงวิชาการเบื้องต้น การให้นักเรียนเขียนเรียงความโต้แย้งเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นในหนังสือจะช่วยพัฒนาทักษะการโต้แย้งและการใช้หลักฐาน การจัดกิจกรรมอภิปรายหนังสือและให้นักเรียนเขียนสรุปการอภิปรายก็เป็นวิธีการที่ดี
สำหรับช่วงชั้นที่ 4 การสอนบทอาขยานควรเน้นการพัฒนาทักษะการเขียนระดับสูง การให้นักเรียนเขียนงานวิจัยเล็ก ๆ เกี่ยวกับหนังสือหรือนักเขียนที่สนใจจะช่วยพัฒนาทักษะการค้นคว้าและการเขียนเชิงวิชาการ การเขียนบทความวิเคราะห์เปรียบเทียบวรรณกรรมจากยุคสมัยต่าง ๆ จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจวิวัฒนาการของวรรณกรรมไทย
กิจกรรมการเขียนบทวิจารณ์หนังสือในรูปแบบวิชาการจะช่วยให้นักเรียนได้ฝึกการใช้ภาษาระดับสูงและการแสดงความคิดเห็นอย่างมีน้ำหนัก การให้นักเรียนเขียนเรียงความเปรียบเทียบแนวคิดหรือปรัชญาที่ปรากฏในหนังสือต่าง ๆ จะช่วยพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงนามธรรม การจัดสัมมนาหนังสือและให้นักเรียน
หนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บทอาขยานภาษาไทย ช่วงชั้นที่ 1 – ช่วงชั้นที่ 4
บทอาขยานหรือบทประพันธ์ที่คัดเลือกมาให้ท่องและครูได้แนะแนวทางให้นักเรียนทำความเข้าใจก่อนท่อง รวมทั้งนักเรียนได้มีโอกาสท่องบทอาขยานพร้อมกันทั้งห้องนั้น จะเป็นผลลดีในภายหลัง ผู้ที่เคยท่องบทอาขยานจะหวนระลึกถึงบรรยากาศของการท่องอาขยาน ว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจ จำบทอาธยานได้แม่นยำ และนำไปใช้อ้างอิงได้ เกิดการสืบทอดทางวัฒนธรรมและปลูกสำนึกให้เยาวชนรู้สึกชาบซึ่งในบทประพันธ์แต่เยาว์วัย การท่องบทอาธยานจึงมิใช่การท่องแบบนกแก้วนกขุนทอง แต่เป็นการท่องเพื่อให้เกิดการจำและรับรู้ เกิดทักษะทางภาษา เกิดความชาบซึ้ง เห็นคุณค่าในความงามของภาษา และได้ข้อคิดนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิต
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อให้นักเรียนตระหนักในคุณค่าของภาษาไทย และชาบซึ้งในความไพเราะของบทร้อยกรอง
๒. เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และข้อคิดที่เป็นประโยชน์แก่นักเรียน
๓. เพื่อเป็นสื่อส่งเสริมจิตสำนึกทางวัฒนธรรมร่วมกันของคนในชาติ
๔. เพื่อเป็นพื้นฐานและแนวทางการแต่งบทประพันธ์ของนักเรียน
ประเภทของบทอาขยาน
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการท่องบทอาขยาน และสนองการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ รวมทั้งสอดคล้องกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่อง วรรณคดีสำหรับจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ตามหลักสูตรการศึกษาชั้นพื้นฐาน ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดแนวทางและพิจารณาคัดเลือกบทอาขยานภาษาไทยขึ้น เพื่อพิจารณาคัดเลือกและวางแนวทางการท่องบทอาธยานสำหรับนักเรียนทุกช่วงชั้น นอกจากนี้ยังเห็นควรเปิดโอกาสให้บุคลากรในท้องถิ่น ได้แก่ ครู บิดามารดา ผู้ปกครอง และนักเรียน มีส่วนร่วมคัดเลือกบทอาขยานด้วย จึงได้กำหนดนดบทอาขยาน
เป็น ๒ ประเภท ดังนี้
๑. บทหลัก
บทหลัก หมายถึง บทอาขยานที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้นักเรียนท่องจำเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั่วประเทศ ส่วนใหญ่คัดเลือกจากวรรณคดีที่กำหนดให้เรียนตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง วรรณคดีสำหรับการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๕ โดยกำหนดตอนที่ไพเราะถูกต้องตามฉันทลักษณ์ และให้คติสอนใจในการกำหนดบทอาขยานบทหลักได้จัดไว้ให้เป็นช่วงชั้น เพื่อให้ยึดหยุ่นสอดคล้องกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการฉบับดังกล่าว ครูจึงต้องพิจารณาคัดเล็อกและกำหนดให้ให้นักเรียนท่องจำบทอาขยานในแต่ละชั้น แต่ละภาคเรียน ตามการเรียนวรรณคดีแต่ละชั้น แต่ละภาคเรียนนั้น หรือตามดุลพินิจ
๒. บทเลือก
บทเลือก หมายถึง บทอาขยานที่นักเรียนเลือกท่องตามความสนใจมิได้เป็นการบังคับโดยอาจเลือกท่องจากบทอาขยานที่กระทรวงศึกษาธิการคัดเลือกไว้ หรือบทประพันธ์ที่ครผู้สอนแนะนำเพิ่มเติม หรือเป็นบทอาขยานที่นักเรียนชอบ นักเรียนแต่งขึ้นเอง หรือผู้ปกครอง ผู้มีความสามารถในท้องถิ่นแต่งขึ้นก็ได้ การที่นักเรียนรู้จักคัดเลือกบทประพันธ์ที่มีคุณค่าและท่องจำไว้ใช้ประโยชน์ย่อมแสดงถึงความเป็นผู้รู้จักคิด ความเป็นผู้มีเหตุผล มีสุนทรียรสทางภาษาษา ทำให้นักเรียนภูมิใจในการท่องบทอาขยานมากยิ่งขึ้น
เกณฑ์การกำหนดเป็นบทอาขยาน
ในการคัดเลือกบทประพันธ์ร้อยกรองกำหนดเป็นบทอาขยานนั้น กระทรวงศึกษาธิการมีแนวทางคัดเลือกบทประพันธ์ที่มีลักษณะดังนี้
๑. มีสุนทรียรสทางภาษา คือ ใช้ภาษาที่ไพเราะ งดงาม ให้ความหมายลึกซึ้งกินใจ
๒. ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ให้ข้อคิดและแนวทางดำเนินชีวิตที่ดีงาม
๓. มีรูปแบบและฉันทลักษณ์ที่หลากหลาย ถูกต้อง เหมาะสมกับวัยและระดับชั้น
๔. มีเนื้อหายากง่ายเหมาะสมกับวัย และมีความยาวพอควรตามเกณฑ์นี้ ครู ผู้ปกครอง และนักเรียนสามารถใช้เป็นแนวทางในการคัดเลือกบทอาขยานบทเลือกได้ และอาจเพิ่มเติมเกณฑ์ได้ตามดุลพินิจ
ตัวอย่างไฟล์เอกสาร

